May 19, 2020 11:19

สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันเคยถามมาในแอพนี้ครั้งนึงแล้ว แต่ผ่านมาได้ไม่กี่สัปดาห์ก็มีปัญหาอีก คาดว่าน่าจะเป็นปัญหาต่อเนื่องน่ะค่ะ จึงขอเรียนถามคุณหมออีกครั้งค่ะ ดิฉันผ่าตัดปีกมดลูกขวาเนื่องจากท้องนอกมดลูก เมื่อวันที่ 9 เม.ย.63 และประมาณวันที่ 20-26 เม.ย.มีมูกใสๆ ไม่มีกลิ่น ออกมาจากช่องคลอดปริมาณจากน้อยไปมาก มีอาการเหมือนจะเป็นประจำเดือน เจ็บคัดหน้าอก และเจ็บหน่วงๆ ที่ท้องน้อย(รึมดลูกนี่ละค่ะ) เวลานอนหงายก็รู้สึกเหมือนมดลูกลอยติดหน้าท้อง ถ้ากดก็จะรู้สึกเจ็บเสียดๆ แต่ไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ไม่สบายตัวเลยเอากระเป๋าน้ำร้อนมาอังไว้ค่อยทุเลาหน่อย ส่วนเวลาจะลุกจะนั่งทีจุกๆ ท้องน้อย รู้สึกเหมือนมดลูกจะหลุดออกมาเลย แต่ว่าเคยผ่าคลอดลูกคนคนนึงได้ 7 ปีแล้วค่ะ (เดือน ก.พ.ประจำเดือนมาวันที่ 6-9 จากนั้นต้นเดือนมีนาตรวจพบว่าตั้งครรภ์ และก้กลายเป็นท้องนอกมดลูกจนต้องผ่าตัดปีกมดลูกขวาไปเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ค่ะ) พอวันที่ 27 เม.ย.ช่วงบ่ายหมอนัดเปิดแผลที่ผ่าตัดหน้าท้อง บอกอาการหมอไป หมอตอบว่าน่าจะเป็นอาการไข่ตกและจะมีประจำเดือน ไม่มีอะไรน่ากังวล ทีนี้พอกลับบ้านแล้วตอนเย็นก็มีเลือดออกเหมือนเป็นประจำเดือน(แต่มาติด กกน.นิดหน่อยค่ะเหมือนเวลามีประจำเดือนวันแรก) และก็ไม่มีอาการปวดท้องรึเจ็บหน่วงท้องน้อยอีก จนถึงวันที่ 6 พ.ค.63 ซึ่งปริมาณปกติเหมือนเวลาที่ดิฉันเป็นประจำเดือน (ไม่มีอาการปวดท้องรึเจ็บปวดอะไรภายในช่องท้องรึว่าท้องน้อย) แต่โดยปกติแล้วตั้งแต่มีประจำเดือนครั้งแรกตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงปัจจุบัน ดิฉันจะมีประจำเดือน 3 วัน หยุดไป 1 วัน และมาอีก 1 วัน เป็นแบบนี้ทุกรอบประจำเดือนค่ะ ซึ่งคุณหมอในแอพนี้ตอบมาว่าน่าจะเป็นประจำเดือนน่ะค่ะ ทีนี้พอวันที่ 16 พ.ค.ช่วงเย็น ได้มีเลือดออกนิดหน่อยแบบเหมือน ปจด.ค้างวันสุดท้ายเวลามีรอบเดือน แต่พอวันที่ 17-19 ก็มีอีก มักออกตอนช่วงเช้าตื่นนอนและช่วงเย็นถึงหัวค่ำ แต่ว่าปริมาณไม่เยอะ และมีอาการปวดหน่วงๆ เสียดๆท้องน้อยนิดหน่อย และมีอาการปวดหัวและปวดเมื่อยหลังเหมือนเวลาที่เป็นประจำเดือนในแต่ละรอบ แต่คราวนี้ไม่มีอาการเจ็บคัดหน้าอก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอีกกี่วันเพราะไม่แน่ใจว่าเกิดจากการผ่าตัดปีกมดลูกขวารึเปล่าน่ะค่ะ หรือจะเป็นอะไรเกี่ยวกับช่องท้องหรือมดลูกไหมคะ(ตั้งแต่ผ่าตัดจนถึงวันนี้ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ค่ะ) รบกวนคุณหมอช่วยตอบให้คลายกังวลทีนะคะ ขอบคุณค่ะ

ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)