November 11, 2019 15:14
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
เนื่องจากไม่เห็นลักษณะของตุ่มที่เกิดขึ้นจึงไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าอาการที่เป็นอยู่ใช่เริมหรือไม่นะครับ
โดยปกติแล้วโรคเริมจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสอยู่บนฐานสีแดงและตุ่มก็อาจแตกออกเป็นแผลทำให้มีอาการแสบร้อนได้ และตุ่มน้ำนั้นก็จะแห้งไปได้เองโดยไม่ทิ้งรอบไว้ใน 7-10 วันครับ ดังนั้นถ้าหากเป็นเริมจริงและตุ่มเริ่มแห้งตกสะเก็ดแล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม
แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นคือเริมจริงหรือไม่ หรือตุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มที่กลับมาเป็นมากขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
สำหรับโรคเริมอาการคือจะมีเป็นลักษณะกลุ่มน้ำตุ่มใส มีปวดแสบปวดร้อนบริเวณตุ่ม เมื่อแห้งจะตกสะเก็ด อาจมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยร่วมได้ ซึ่งจากประวัติ มีตุ่มใสๆขึ้นแถวอวัยวะเพศ ขึ้นติดๆกันประมาณ 3-4 ตุ่ม ไม่มีไข้ 2-3 วันตุ่มแตกเป็นแผลตกสะเก็ด ซึ่งก็อาจคิดถึงโรคเริมได้ อย่างไรก็ตามหมอไม่ได้เห็นภาพและไม่ได้ตรวจร่่างกายจริงทำให้ไม่สามารถยืนยันการวินิจฉัยได้ 100% กรณีเป็นครั้งแรกหมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดูโดยตรง หรือถ้าลักษณะของรอยโรคไม่ชัด อาจจำเป็นต้องทำการตรวจวิธี Tzanck test โดยการเก็บตัวอย่างเซลล์จากรอยโรคไปย้อมส่องดู และถ้าเป็นโรคเริมจริง แพทย์จะรักษาโดยการให้ยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม วันละ 5 ครั้ง ทุก ๆ 4 ชั่วโมง (เว้นช่วงนอนหลับตอนดึก) หรือให้รับประทานในขนาด 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ทุก ๆ 8 ชั่วโมง นาน 10-14 วัน และถ้ามีการติดเชื้อซ้ำอีก จะต้องรับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ทุก ๆ 8 ชั่วโมง นาน 5 วัน ซึ่งถ้าเป็นซ้ำสามารถรักษาได้ด้วยตัวเองโดยสามารถไปซื้อยาโดยมีเภสัชกรเป็นผู้แนะนำ แต่เป็นครั้งแรกหมอขอให้ไปพบแพทย์เพื่อยืนยันการวินิจฉันก่อนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เคยเป็นตุ่มแบบนี้บริเวณช่วงที่ขนอวัยเพศแล้วมันก็แตกหายไปเองไม่แน่ใจว่าเป็นครั้งที่เท่าไร หรือรอบนั้นเขาเรียกว่าเริมไม แต่ไม่มีอาการเป็นไข้ หรือป่วยคับ ไม่แน่ใจว่าครั้งแรกไมครับ ขอบคุณคับ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การที่จะบอกได้ว่าอาการเกิดจากเริมหรือไม่นั้นจะต้องอาศัยการตรวจดูลักษณะของตุ่มน้ำที่เกิดคขึ้นโดยตรงก่อนครับ เพราะการมีตุ่มผิดปกติขึ้นมาที่บริเวณอวัยวะเพศนั้นก็ยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้อีก เช่น ต่อมไขมันอักเสบ รูขุมขนอักเสบ การติดเชื้อราบางอย่าง
แต่โดยธรรมชาติของเริมแล้วตุ่มน้ำก็จะสามารถกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้เป็นระยะ เนื่องจากเมื่อตุ่มน้ำจากเริมหายไป เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดเริมก็จะเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทและจะกลับมาเป็นซ้ำได้เมื่อภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลงครับ การที่มีตุ่มน้ำกลับมาเป็นซ้ำบ่อยๆนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดจากการเป็นเริมได้เช่นกัน
ถ้าต้องการทราบให้แน่ชัดจริงๆว่ามีการติดเชื้อเริมหรือไม่ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอคับ ผมคิดว่าผมน่าจะเป็นเริมที่อวัยวะเพศคับ อาการมีตุ่มใสๆขึ้นแถวอวัยวะเพศ แต่ขึ้นไม่เยอะขึ้นติดๆกันประมาณ 3-4 ตุ่ม ไม่มีไข้ 2-3 วันตุ่มแตกเป็นแผลตกสะเก็ดแล้ว มีอาการเจ็บที่แผลเฉยๆ อยากทราบว่า ผมครวทำยังไงต่อรอให้หายเอง แล้วอาการที่ผมเป็นอยู่ ใช่เริมไมคับ ขอบคุณคับ หรือต้องซื้อยาไรมาทาน หรือมาทาหรือป่าวคับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)