March 22, 2020 06:45
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
จากประวัติหยุดทานยาคุมกำเนิดตั้งแต่ 13 กุมภาพันธ์ และได้มีเพศสัมพันธ์วันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ กรณีนี้ยาคุมจะไม่สามารถคุมกำเนิดได้แล้วหลังหยุดยาไป สำหรับการมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ซึ่งถือว่าสูง โดยจริงๆแล้วกรณีนี้จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์ภายใน 120 ชั่วโมง จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% ส่วนอาการที่กล่าวมาดังกล่าวไม่ใช่อาการเฉพาะเจาะจงต่ออาการใด อาจคิดถึงได้ตั้งแต่อาการตั้งครรภ์ อาการก่อนประจำเดือนมา จากความเครียด หรือภาวะป่วยอื่นๆ แต่ไม่ได้คิดถึงจากยาคุมเพราะหยุดไปตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ กรณีนี้ไม่ทราบว่าตรวจครรภ์ไปตอนไหนคะ ซึ่งการจะตรวจการตั้งครรภ์สามารถตรวจได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแล้ว 14 วัน และให้ตรวจจากปัสสาวะแรกของวันในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ กรณีที่ตรวจตามนี้แล้วและไม่ตั้งครรภ์ถ้าประจำเดือนขาดนานเกิน 3 เดือนแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุดูค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตรวจตอนประมาณ5ทุ่มค่ะเพราะทำงานกะดึกไม่ใช้ฉี่แรกของวันค่ะ
คือหนูมีอาการเหนื่อยง่ายปัสวะบ่อยประจำเดือนขาดมา7วันบ้างครั้งมีอาการคลื่นไส้แต่อาเจียนไม่ออกและเหม็นอาหารบางเวลามีเพศสัมพันกับแฟนล่าสุด25-27กุมภาแต่หลั่งนอกประจำเดือนครั้งสุดท้ายมา17-22กุมภาคะและหนูได้หยุดทานยาคุมชนิด21เม็ดวันที่13กุมภาค่ะอยากทราบว่าเป็นผลข้างเคียงของยารึว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ หรือหนูกังวนมากจนเกิดอาการดังกล่าวค่ะ (ลองตรวจตอนประจำเดือนขาดได้2วันขึ้น1ขีดค่ะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)