สอบถามคุณหมอค่ะ - แบบนี้มีโอกาสตั้งครรถ์ไหมคะ? - ผลข้างเคียงจากการหยุดยาคุมกลางแผง ร้ายแรงไหม? - มีโอกาสเป็นโรคแทรกซ้อนหรือไม่? - การตรวจเลือด หรือ การตรวจปัสสะวะ สำหรับการตั้งครรถ์ ถ้าต้องการผลที่แน่นอน สามารถทำได้เร็วสุดเมื่อใด? *Timeline* 31-Jan-20 ทานยาคุมYasmin (แบบ21เม็ด) หมดแผงแรก (*เริ่มทานตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือน) 02-Feb-20 ประจำเดือนมาตามปกติ 07-Feb-20 เริ่มยาคุมYasmin (แบบ21เม็ด) แผงที่สอง 09-Feb-20 ประจำเดือนหมด 12-Feb-20 มีเพศสัมพันธิ์กับแฟน โดยไม่ได้ป้องกันอย่างอื่นร่วม แต่ไม่มีการหลั่งใน 17-Feb-20 หยุดทานยาคุม (เนื่องจากอยู่ต่างประเทศและกระเป๋าหาย) 20-Feb-20 มีประจำเดือนอีกครั้ง จนถึงปัจจุบัน (วันหนึ่งเปลี่ยน 2-3 แผ่นเต็ม) ปล. ทานยาตรงเวลาทุกวัน

สวัสดีครับ
ในกรณีนี้ถ้าหากหลังจากหยุดรับประทานยาคุมไปไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยครับ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนหน้านี้จะยังได้รับการป้องกันจากยาคุมอยู่ โดยจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3-9% ครับ แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ส่วนการหยุดรับประทานยาคุมระหว่างแผงไม่ได้มีอันตรายครับ เพียงแต่ว่าก็อาจทำให้ระดับฮอร์โมนในเลือดมีการแปรปรวนไปและมีประจำเดือนมาผิดปกติได้ครับ

การมีเพศสัมพันธ์ดังที่กล่าวมา มีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือนอยู่ค่ะ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากโดยเฉพาะถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ

และถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่าเลือดที่ออกมาดังกล่าวเป็นประจำเดือนจริงหรือไม่นะคะ

ดังนั้น เพื่อความชัดเจน โดยเฉพาะถ้าผู้ถามยังกังวลใจ แนะนำให้ใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

การหยุดใช้ยาคุมกลางแผงจะทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องตามที่ควรจะเป็น แต่ถ้าผู้ถามไม่มีเพศสัมพันธ์อีกเลย หรือมีการป้องกันด้วยถุงยางทุกครั้งในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา ก็ไม่มีปัญหาค่ะ

และการหยุดใช้ยาคุมกลางแผงอาจส่งผลให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปจากที่ควรจะเป็นนะคะ อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนที่มาเร็วก่อนกำหนด หรือเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ แต่ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็อาจรอดูไปก่อนได้ค่ะ

ประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน + มาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน + มาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ซึ่งสำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม รอบประจำเดือนจะเป็น 28 วันค่ะ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม รอบประจำเดือนอาจเป็น 24 - 35 วันนะคะ

ถ้าผู้ถามมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง หรือถ้าผู้ถามมีเลือดออกมามากหรือนานผิดปกติ หรือถ้ามีปัญหาเลือดออกมาผิดปกติไม่ตรงตามรอบเช่นนี้อีกเรื่อย ๆ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

ในกรณีนี้จะไม่สามารถคาดการณ์ระยะห่างของประจำเดือนรอบต่อไปได้ครับ เนื่องจากในช่วงที่เพิ่งหยุดรับประทานยาคุมกระทันหันจะทำให้ระดับฮอร์โมนมีความผิดปกติไปจากเดิมได้ในช่วงแรกครับ

"ประจำเดือนในครั้งถัดไป จะต้องนับรอบเดือน 28 วันจาก 2 กุมภาพันธ์ หรือ 20 กุมภาพันธ์"

การใช้ยาคุมไป 10 วันแล้วหยุดใช้ ไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่าจะทำให้ประจำเดือนมาเร็วผิดปกติหรือไม่ หรือประจำเดือนจะคลาดเคลื่อนมากหรือน้อยเพียงใด

ดังนั้น จึงไม่ชัดเจนว่าเลือดที่ออกมาในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เป็นประจำเดือนที่มาก่อนกำหนด หรือเป็นผลข้างเคียงจากการใช้และหยุดใช้ที่ไม่เหมาะสม หรือเกิดจากสาเหตุอื่นใด ดังนั้น ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ก็แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ

และในกรณีที่เป็นประจำเดือนที่มาก่อนกำหนด เมื่อไม่ได้ใช้ยาคุมต่ออีกแล้ว การมาของประจำเดือนรอบต่อไป ก็จะขึ้นกับฮอร์โมนตามธรรมชาติในร่างกายของผู้ถามเอง ซึ่งโดยทั่วไป ควรจะมาห่างจากวันแรกที่มีประจำเดือนรอบล่าสุดไปอีก 24 - 35 วัน แต่ถ้าผู้ถามมีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วในช่วงก่อนที่จะใช้ยาคุมรายเดือน เมื่อหยุดใช้ ประจำเดือนก็อาจคลาดเคลื่อนได้เหมือนที่เคยเป็น ถ้าสาเหตุของความผิดปกตินั้นยังไม่ถูกแก้ไข

ดังนั้น คงระบุแน่ชัดได้ยากว่าประจำเดือนรอบต่อไปของผู้ถามจะมาในช่วงวันที่เท่าไหร่ค่ะ หากต้องการความชัดเจนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ตามที่แนะนำไปข้างต้น และถ้าต้องการจะมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมอีกแล้ว ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งนะคะ