December 10, 2020 13:57
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันอย่างถูกต้องแล้วโอกาสตั้งครรภ์ก็มีเพียง 2% เท่านั้นครับ และการที่มีเลือดออกมาน้อยกว่าประจำเดือนปกติก็ไม่ได้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการตั่งครรภ์ครับ
ทั่งนี้ถ้าจะให้มั่นใจจริงๆ หมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คือ เมื่อวันที่ 18/11 มีเพศสัมพันธ์ มีการป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัย ไม่มีการขาดใดๆเลย ต่อมาวันที่ 4/12 มีเพศสัมพันธ์อีก แต่ก่อนหน้านั้นเหมือนจะมี มีของเหลวที่ไหลออกมาจากช่องคลอดปนเลือดนิดๆ แต่คิดว่าไม่เป็นอะไรก็เลยทำต่อ แต่ระหว่างมีเพศสัมพันธ์มีเลือดออก ตอนนั้นคิดว่าเป็นเลือดประจำเดือนเพราะว่า รอบเดือนของเดือนธันวาจะมาวันที่ 8 แต่หลังจากวันนั้นและวันที่ 5 ก็ไม่มีเลือดออกมา -วันที่ 6,7 มีเลือดออกมา สีค่อนข้างคล้ำ และมีปริมาณน้อยมาก -วันที่ 8 มีเลือดออกสีปกติเหมือนประจำเดือนทั่วไป มีปริมาณมากกว่าเดิมนิดนึง แต่ก็ยังน้อยกว่าปกติมาก -วันที่ 9 มีเลือดออกสีแดงที่คล้ำๆ มีปริมาณเท่าๆวันที่ 8 -วันที่ 10 มีเลือดออกแต่เป็นมีดำ มีปริมาณน้อย แล้วก็ไม่มีการปวดท้องอะไรเลยค่ะ มีแค่ปวดตัว คัดหน้าอก แค่ก่อนประจำเดือนมา พอมีแล้วก็ไม่มีอาการอื่นเลย อยากทราบว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ หรือมีความผิดปกติอะไรของร่างกายหรือเปล่า เพราะปกติประจำเดือนจะมาแค่ 4-5 วัน/เดือน เกี่ยวไหมคะถ้าออกกำลังกายบ่อย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)