February 07, 2020 19:24
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าไม่มีการคุมกำเนิดใดสามารถป้องกันได้ 100% ครับ การใช้ถุงยางอนามัยนั้นสามารถป้องกันได้ 82-98% ครับ ดังนั้นหากขาดประจำเดือนอันดับแรกแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนครับ ถ้าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มานั้นอาจเกิดจาก - ไม่มีการตกไข่
- ฮอร์โมนเพศผิดปกติ
- เครียด
- ออกกำลังกายหนัก
- น้ำหนักน้อยหรือมากเกินไป
หากประจำเดือนไม่มามากกว่า 3 เดือน แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมและให้การรักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้ถุงยางถูกวิธี และตรวจสอบจนมั่นใจแล้วไม่มีปัญหาใด ๆ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ แต่ถ้ามีปัญหาถุงยางรั่วซึม, ฉีกขาด หรือเลื่อนหลุด ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากอาจไม่มีผลป้องกันจากถุงยางที่ใช้
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองเมื่อถุงยางรั่วซึม, ฉีกขาด หรือเลื่อนหลุด เป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมแล้วนะคะ หากใช้เร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15% แทนได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม และกังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นถือว่ามีโอกาสที่ตะตั้งครรภ์ได้น้อยครับ เนื้องอกการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งแรกที่ถุงลมหลุดยั้นไม่ได้มีการสอดใส่ ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะจั้งครรภ์ได้จากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งนี้ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งที่ 2 ที่ได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันแล้วถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ
อย่างไรก็ตามถ้าหากประจำเดือนขาดหายไป หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้งไม่พบการตั้วครรภ์ ประจำเดือนก็จะมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผืดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่งแต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หนูตรวจสอบถุงยางทั้ง2ครั้งเลยค่ะ ไม่มีการรั่วของถุงยางอนามัยนะคะ หนูควรตรวจกี่ครั้งคะเพื่อให้แน่ในว่าไม่ท้องจริงๆ หรือครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว
คุณหมอคะ คือหนูมีประจำเดือนล่าสุดวันที่29 ธค 62 หนูมีอะไรกับแฟนวันที่ 12 มกราคม 63 ป้องกันนะคะ แต่ถุงหลุด แฟนรู้ตัวก่อนเลยไม่ได้สอดใส่ไป อวัยวะเพศแฟนโดนแค่รอบนอก(ไม่เสร็จนะคะ) หนูเลยตัดสินใจกินยาคุมฉุกเฉินในตอนเช้าของวันที่ 13 หลังจากนั้นหนูมีอะไร อีกในวันที่ 19 มกราคา 63 ค่ะ ป้องกันเหมือนเดิมค่ะ (ไม่เสร็จ) วันนี้ประจำเดือนหนูยังไม่มาเลยค่ะ มีอาการปวดท้องนิดหน่อย ไม่เยอะ ไม่ทราบว่าหนูมีโอกาสท้องมั้ยคะ ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)