กินยาคุมปกติหลังมีอะไรกันไปจะเป็นไรค่ะไม่เคยกินมาก่อนด้วยค่ะเเต่ใส่ถุงยางไม่ได้มีการ เเตกหรือรั่วค่ะ เเล้วก้มามีอะไรกันเเต่ไม่ได้ใสุ่ถุงยางค่ะ เเต่ก้ไม่ได้มีการหลังทั้งสองค่ะจะเป็นไรไหมค่ะ

1. ใช้ยาคุมยี่ห้ออะไร และเริ่มรับประทานวันที่เท่าไหร่คะ
2. ประจำเดือนรอบล่าสุดมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่คะ
3. การมีเพศสัมพันธ์ครั้งที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย เกิดขึ้นในวันที่เท่าไหร่ และเป็นเวลาก่อนหรือหลังกินยาคุมในวันนั้นคะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยใส่ถุงยางอนามัยป้องกันอยู่แล้วอย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ ในกรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมในกรณีนี้ครับ แต่ถ้าจะรับประทานยาคุมต่อก็จะต้องรับประทานต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันตั้งครรภ์ได้ และในช่วง 7 วันแรกที่รับประทานยาคุมก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อนครับ

สวัสดีครับ
- ในการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยนั้นมีโอกาสที่จะทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ ถึงแม้จะไม่ได้มีการหลั่งภายในก็ตาม เนื่องจากสารคัดหลั่งที่ออกจากอวัยวะเพศชายสามารถพบอสุจิได้ครับ
- ช่วงที่ใช้ถุงยางอนามัยหากใช้อย่างถูกวิธี และไม่รั่วซึมสามารถป้องกันได้ถึง 98% ครับ
- การรับประทานยาคุมแบบรายเดือนภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดครับ ยาที่ทานภายหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วควรเป็นยาคุมแบบฉุกเฉินครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

1. ยาคุมรายเดือนไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ อย่างไรก็ตาม ถ้าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นมีการใส่ถุงยางอนามัยถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ตามผลป้องกันของถุงยางอนามัยนะคะ

2. เมื่อเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องรับประทานดิออร์ร่าติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ ในช่วงที่ยังไม่มีผลป้องกันจากยาคุม จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อน

การที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์เมื่อวานนี้ โดยป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำอย่างการหลั่งนอก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% นะคะ ถ้าต้องการลดความเสี่ยงนี้ ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ หากใช้เร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15% แทนได้

ส่วนยาคุมดิออร์ร่า แนะนำให้หยุดใช้ไปก่อนนะคะ อีกทั้ง ควรงดมีเพศสัมพันธ์ แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันนี้หรือเปล่า เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ควรตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ามีเหตุจำเป็นก็สามารถใช้ซ้ำอีกได้ ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินที่อาจพบได้ก็เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย แต่ไม่ได้มีอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ

แต่ไม่ควรนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้เพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยางอนามัยนะคะ เพราะประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน จึงเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ

ถ้าประจำเดือนมาตามรอบปกติแล้ว หากคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ และไม่ต้องการใช้ถุงยางอนามัย ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ถามนะคะ

หรือถ้ากังวลเรื่องผลข้างเคียงจากยา และคาดว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งนัก การใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ

ถ้าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งที่ผ่านมาได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันอย่างถูกต้องแล้วก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ในกรณีนี้แม้ยาคุมที่รับประทานจะยังไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ครับครับ

ส่วนยาคุมดิออร่าที่รับประทานอยู่ในตอนนี้ก็ต้องรับประทานติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้วจึงมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันได้หลังจากนั้นครับ

จากข้อมูลที่ผู้ถามให้มา สรุปได้ว่า...
1. การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัย ถุงยางไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด
2. การมีเพศสัมพันธ์ครั้งที่สอง เกิดขึ้นวานนี้ ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย แต่ไม่มีการหลั่งในช่องคลอด
3. เริ่มรับประทานยาคุมดิออร์ร่าวานนี้

ซึ่งถ้าผู้ถามรับประทานยาคุมรายเดือนตามเวลาที่มักจะแนะนำให้ใช้ คือ ก่อนนอนตอนกลางคืน จนถึงปัจจุบันก็ควรใช้ไปเพียงแค่ 1 เม็ด แต่ตามข้อมูลที่ให้มาล่าสุดว่า "รับประทานตรงเวลาทุกวัน" เป็นไปได้ว่าผู้ถามอาจรับประทานในเวลากลางวัน และใช้ไปแล้ว 2 เม็ด คือ เมื่อวาน 1 เม็ด และวันนี้อีก 1 เม็ด

แต่เนื่องจากใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จึงยังไม่มีผลป้องกันจากยาคุมดิออร์ร่านะคะ ในกรณีนี้ ผู้ถามมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้จากการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งที่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย 22% ตามวิธีหลั่งนอกค่ะ

ส่วนยาคุมดิออร์ร่าที่เริ่มใช้ไปเพียงแค่ 1 - 2 เม็ด ไม่แนะนำให้ใช้ต่อในตอนนี้นะคะ เนื่องจากไม่มีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงที่ผู้ถามต้องการได้ และยิ่งจะทำให้สับสนกับการที่ประจำเดือนจะเลื่อนช้าออกไปมากขึ้น

แนะนำดังนี้ค่ะ...
1. หยุดรับประทานดิออร์ร่า
2. รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินในตอนนี้ หรือภายในวันนี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลง
3. งดมีเพศสัมพันธ์แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมภายใน 7 วันนี้หรือเปล่า
4. ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ควรตรวจให้ชัดเจนด้วยการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ