January 08, 2021 00:45
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นจะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ และถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากหารมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปเกิน 14 วันแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็มักมาช้าจากสาเหตุอื่นๆมากกว่าครับ เช่น ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ การตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS) ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
ถ้าหากประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆ หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ คุณหมอ พรุ่งนี้จะลองตรวจครรภ์ซ้ำอีกทีค่ะ เพราะครั้งแรกที่ตรวจคือตรวจตอนเย็น ต้องตรวจตอนเช้าปัสสวะแรกถึงจะได้ผล99% ใช่ไหมคะ
สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากสอบถามคุณหมอ คือต้องบอกก่อนว่าเป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติค่ะ ตอนนี้มีกังวลนิดหน่อย คือ ประจำเดือนล่าสุดคือ 10-15 พฤศจิยายน63 แล้ว วันที่ 16 ธันวาคม ได้มีเพศสัมพันธ์แบบปล่อยในแต่ใส่ถุงยางนะคะ จนวันที่ 7 มกราคม 64 ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ วันที่ 1 มกราคมได้ทีการตรวจครรภ์แบบจุ่มไป ขึ้นขีดเดียว ตอนนี้กังวลค่ะ อยากถามว่าเป็นเพราะอะไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)