มีอาการปวดหน่วงๆที่อัณฑะข้างซ้าย มาประมาณ2อาทิตย์แล้วครับ แต่ไม่เห็นเส้นเลือดปูด(ผมคิดว่ามีอาการเส้นเลืดอัณฑะขอด) ปีที่แล้วก็มีอาการแบบนี้แต่ว่าก็หายไปเอง ไม่ได้ปวดมากขนาดทนไม่ไหว ต้องไปผ่าตัดหรือตรวจพบแพทย์มั้ยครับ แล้วมีโอกาสเป็นหมันมั้ยครับ ผมอายุ15ปีครับ เสี่ยงต่ออนาคตมั้ยครับ มีวิธีรักษาเองเบื้องต้นรึเปล่าครับ แล้วอาการปวดนี่มีสาเหตุจากการช่วยตัวเองบ่อยครั้งรึเปล่าครับ แล้วมีโอกาสที่จะเป็นโรคอื่นไหมครับ ต้องการหลายๆความเห็นน่ะครับ

ถ้าปวดหน่วงชัด ไม่ได้มีบวมเเดง ไม่ได้เห็นรอยโรคที่เเสดงอชการอักเสบติดเชื้อ หรือ อัณฑะบิดผิดรูป

ที่เจอบ่อยคือ หลอดเลือดดำอัณฑะขอด คือ ก้อนที่เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำในอัณฑะ ซึ่งการที่หลอดเลือดดำขอด มีสาเหตุมาจากการเสื่อมของลิ้นในหลอดเลือดดำ ทำให้เลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจได้น้อย หรือไม่ได้ เลือดจึงท้นมาคั่งอยู่ในหลอดเลือดบริเวณอัณฑะ ทำให้คลำได้เป็นก้อนคล้ายๆถุงหนอน(Bag of Worm)ในอัณฑะ อาจมีอาการรำคาญ หรือ ปวดหน่วงที่อัณฑะด้านนั้นครับ

หลอดเลือดดำอัณฑะขอด พบได้บ่อยในช่วงอายุ 15-30 ปี มักโตขึ้นอย่างช้าๆ และมักเกิดกับอัณฑะข้างเดียว (พบข้างซ้ายสูงกว่าข้างขวา เพราะหลอดเลือดข้างซ้ายมีลักษณะที่ถูกบิดอุดตันได้ง่ายกว่าข้างขวา แต่พบเกิดทั้งสองข้างซ้าย-ขวาร่วมกันได้)

หลอดเลือดดำอัณฑะขอด ถ้ามีขนาดโตและปล่อยไว้นานไม่รักษา จะกดทับทำให้อัณฑะฝ่อลีบส่งผลถึงการสร้างอสุจิ ทำให้เป็นหมันได้ครับ

ควรไปพบแพทย์แผนกศัลยกรรมทั่วไป เพื่อตรวจคลำอัณฑะ และพิจารณาตรวจอัณฑะด้วยอัลตราซาวด์ครับ

การรักษา ถ้าเป็นน้อยๆ ไม่ต้องทำอะไรครับ เเต่ถ้า มีอาการปวด รบกวนชีวิตประจำวัน , ตรวจอสุจิเเล้วผิดปกติ อาจต้องผ่าตัดครับ

สวัสดีครับ
อาการปวดหน่วงที่อัณฑะนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการอักเสบของอัณฑะ
- ไส้เลื่อน
- มีถุงน้ำในอัณฑะ
- เส้นเลือดขอดที่อัณฑะ
ซึ่งแนวทางการรักษาก็จะมีความแตกต่างกันไป และการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองด็ไม่จำเป็นต้องกาะตุ้นให้เกิดอาการเหล่านี้เสมอไปครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ