อาการและยาโรคลมชัก เมื่อเดือนเมษา พบว่าพ่อมีอาการโรคลมชัก คือมีอาการเหม่อ เกร็ง หน้าบิดไปข้างนึงตอนชัก ไปหาหมอ ได้ scan MRI พบว่ามีส่วนของสมองที่ตายหลายจุด ซึ่งหมอสันนิษฐานว่า เป็นเหตุให้ชักได้ เลยเริ่มมีการรักษด้วยยาไดแลนติน จน 3 อาทิตย์ผ่านไป พ่อเกิดอากาาแพ้ ไดแลนติน คือมีผื่นแพ้ทั้งตัว หมอให้ admit แล้วเปลี่ยนยาเป็น Keppra 500 mg และยังพบว่าเกลือแร่ต่ำ ต้องทานเกลือคู่กันไปด้วย พอมาวันที่ 17 พฤษภา พ่อชักแรงมากกว่าครั้งก่อน แจ้ง 1669 มารับ ผลคือต้อง Admit ดูอาดาร ที่ รพ.แหลมฉบังตามสิทธิ์บัตรทอง ทางบ้านเลยตัดสินใจจะไปสถาบันประสาท เพื่อหาสาเหตุของการชัก แต่ก็อยากไปโดยใชสิทธิ์บัตรทองที่มี เพราะโรคนี้จะรักษาระยะยาว พ่อมีสิททธิ์ที่รพ.แหลมฉบัง แต่ที่นี่ไม่มี Keppra เลยทำเรื่องไปให้รับยาที่ รพ.ชลบุรีก่อน จนมาได้เข้าตรวจที่ รพ.ชลบุรี เมื่อวันจันทร์ ที่ 25 หมอสั่งเปลี่ยนยา จาก Keppra 500 mg เป็น Keppra 250 mg 2เม็ด คู่กับ Depakine อีก 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร เช้าเย็น ทีนี้ ก็เริ่มงง เพราะยาที่ไม่ได้เอ่ยถึง เช่น ยาความดัน Folic Aspairin รวมทั้งเกลือ ยังต้องกินอยู่มั้ย กลัวว่าหมอหมายถึงหยุดยาตัวเก่า แล้วมาใช้ยาใหม่ที่หมอจ่ายแทน ซึ่งพ่อไปกะแม่ ตัวดิฉันไม่ได้ไปด้วย เลยคิดว่าแม่น่าจะเข้าใจผิด เพราะ พ่อน่าจะยังต้องกินยาความดัน เพื่อดูแลเรื่องความดัน กับวิตามิน Folic บำรุงเลือดไปด้วย ไม่น่าจะหยุด เลยอยากจะขอคำแนะนำจากคุณหมอเป็นแนวทางก่อน ว่ามีความเห็นอย่างไรกับยาที่มีเพราะมีนัดที่ รพ.แหลมฉบังวันศุกร์นี้ เพื่อไปรับยาที่เหลือ พวกความดัน Folic และอื่นๆ มี่ รพ.มี รวมถึงขอทราบอาการข้างเคียง ของยาใหม่ เพราะพ่อทานมาครบ 3 มื้อ ดูพ่อ หลงๆ ลืมๆ จำอะไรไม่ค่อยได้กว่าเดิม อยากนอนทั้งวัน ไม่อยากเดินออกกำลังกาย ดูสับสน กระสับกระส่าย เกรงว่าจะชักอีก แต่พ่อยังทานอาหารที่จัดให้ได้ตามปกตินะคะ พ่อเพิ่งเปลี่ยนยาได้ 3 มื้อ คือเริ่มมื้อเย็นเมื่อวาน คือทานยาความดัน คู่กับ ยาที่ หมอ จ่ายมาใหม่ เมื่อเช้าก็ยาความดัน Folic กะยาใหม่ เย็นก็ความดันกะยาใหม่