มีเพศสัมพัน​กับแฟน​ครั้งแรก​ช่วง​มี​ป​ระ​จำเดือน​ตั้งแต่วันที่1, 2ของการมีรอบเดือนไปจน ประจำเดือนหมด​ คือวันที่ื​10-15​ มค.​โดยมีการใช้ถุงยางอนามัย​แต่ผิดไซด์คือ​ ขนาดถุงยางเล็กกว่าอวัยวะเพศ​เค้านิดหน่อย​ (คือถุงยางใส่ได้​แต่ใส่ได้ไม่สุดทั้งหมดและไม่มั่นใจว่ามีการขาดหรือรั่วของถุงยางหรือไม่)​ แล้วมีช่วงไข่ตกวันที่​ 23​-24​ มค. แต่จนวันนี้​ 2 กพ. แล้วยังมีตกขาวอยู่(ปกติไม่มีตกขาวนานขนาดนี้​ คำถามคือ​ 1. อย่างนี้มีภาวะผิดปกติอะไรมั้ยคะ​ เพราะปกติตกขาวจะไม่หลายวันแบบนี้​ และช่วงวันที่​ 29-30​ มีเหมือนตกขาวสีน่ำตาลเหมิอนมีเลือดปนค่ะ​ บางวันก็เป็นตกขาวขุ่นตลอดจนวันนี้ 2. มีอาการเวียนหัว​ ไม่สบายตัว​ ครั่นเนื้อครั่วตัวเกิดจากอะไรคะ 3. มีภาวะเสี่ยงการตั้งครรภ์​มั้ยคะ 4. เป็นไปได้มั้ยคะว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนรอบหน้า​ (ถ้าตามรอบจะมา​ 8​ กพ.)​ ร่างกายจะมีการทำความสะอาดช่องคลอดและออกมาในรูปของตกขาว ส่วนข้อนี้ขอถามเป็นความรู้ค่ะ​ สงสัยว่าปกติประจำเดือนจะมีประมาณ​5-6วัน​ โดยจะมามากช่วงวันที่​ 1และ2  แล้วค่อยๆลดลงจนวันที่5-6จนหมด​ แต่รอบนี้หลังจากที่มีเพศสัมพัน​ครั้งแรกแล้ว​ประจำเดือนมาน้อยจนเกือบหมดตั้งแต่วันที่​ 2 เลยอันนี้เกิดจากอะไรคะ ปล.ขอถามเยอะหน่อยค่ะพอดีกังวลพอสมควร

สวัสดีครับ
1. การมีตหขาวมากขึ้นนั้นอาจเป็นอาการนำก่อนการมีประจำเดือนได้ แต่โดยปกติแล้วตกขาวก็จะไม่มีสีน้ำตาลปนออกมา การที่ตกขาวมีสีน้ำตาลปนออกมานั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การมีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- มีความผิดปกติของมดลูกหนือปากมดลูก

ถ้าหากตกขาวสีน้ำตาลนั้นออกมาในปริมาณมากหรืออกมาติดต่อกันหลายวัน หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

2. อาการเวียนศีรษะ ไม่สบายตัว ครั่นเนื้อครั่นตัวนั้นถ้าหากเป็นมากหว่าอาการนำก่อนที่จะมีประจำเดือนตามปกติก็มีโอกาสที่จะเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น
- มีการอักเสบติดเขื้อในร่างกาย
- ภาวะขาดน้ำ
- การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- ภาวะโลหิตจาง
- โรคน้ำในหูไม่เท่าก้น
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพื่อเช่นกันครับ

3. โอกาสตั้งครรภ์มีได้ 2-18% ขึ้นอยู่กับความถูกต้องของการใช้งานถุงยางอนามัยครับ

4. การมีตกขาวมากขึ้นอาจเกิดได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะมีประจำเดือน แต่จะไม่เกี่ยวกับการล้างทำความสะอาดช่องคลอดครับ

ในกรณีที่ต้องการทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ