ผมเคยเป็นแพนิค แล้วหยุดกินยามาสามปี ตอนนี้ผมมีอาการ คิดวิตกกังวนเกือบตลอดเวลา เวลามีอาการผมรู้สึกแน่นท้องอึดอัดต้องเรอออกมาตลอด แล้วรู้สึกเหมือน วูบๆนิดหน่อย เหมือนเซ แต่ไม่เซ อยากสอบถามว่าผมกลับมาเป็น แพนิค อีกแล้วใช่ไหม

โรคแพนิค หากหยุดการรักษาไปแล้ว ต้องหมั่นสังเกตเฝ้าระวังอาการผิดปกติ เนื่องจากแพนิคมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ค่ะ

อาการแพนิค เกิดจากความวิตกกังวลที่มากเกินระดับปกติ จนกระตุ้นให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานไวเกินไป ทำให้มีอาการใจสั่น หายใจไม่อิ่ม เหนื่อย เจ็บแน่นหน้าอก มือเท้าชา หน้ามืด เป็นลม เมื่อมีอาการทางกายเกิดขึ้น ผู้ป่วยจะยิ่งมีความวิตกกังวลกลัวมากขึ้น กลัวว่าจะมีอาการจนเป็นอันตรายแก่ชีวิต ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่กล้าอยู่คนเดียวเพราะกลัวจะมีอาการ โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นตอนไหนนั้นผู้ป่วยไม่อาจคาดเดาได้ หากมีอาการต่อเนื่องเกิดขึ้นบ่อยๆ นานเกิน 6 เดือน และอาการส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต แนะนำพบจิตแพทยื ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ

การรักษาแพนิคอาจจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อลดความวิตกกังวล ร่วมกับการทำจิตบำบัดเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายค่ะ

หรือ เบื้องต้น เมื่อเริ่มมีอาการให้ตั้งสติ กำหนดลมหายใจเข้าออกช้าๆลึกๆ ทำไปเรื่อยๆ และบอกตัวเองว่าอาการเหล่านี้ เป็นอาการที่ไม่อันตราย เพียงแต่เราต้องควบคุมมันให้ได้ หากเราตื่นกลัว มันก็จะยิ่งโจมตีเรา จะช่วยให้อาการแพนิคค่อยๆสงบลงได้ค่ะ

สวัสดีครับ

จริงๆดูแล้วไม่ค่อยคล้ายกับอาการ panic attack นะครับในมุมมองของผม อาจจะมีในเรื่องเดินเซ แล้วก็วูบๆไป แต่การมีเรื่องวิตกกังวลอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดอาการแพนิคได้ครับ นอกจากนั้นแล้วลองสังเกตดูได้นะครับว่าจะเกิดอาการเหล่านั้นเมื่อไหร่ สิ่งแวดล้อมอะไรที่ทำให้เราเกิดอาการเหล่านั้นขึ้นมาได้ ถ้าหากว่าคุณรู้สึกว่ามันมีอาการ panic attack เข้ามาจริงๆ การไปรับยาจาก หมอคนเก่าก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ หรือมิฉะนั้นก็ลองหาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคนอื่นๆได้ครับ

ในเบื้องต้นลองสังเกตตนเองให้มากขึ้น หรือลองไปตรวจร่างกายกับโรงพยาบาลฝ่ายกายเพื่อตรวจสอบความผิดปกติในระบบร่างกายดูนะครับ ซึ่งผมได้แนบลิ้งค์เกี่ยวกับเรื่อง panic disorder ไว้ด้านล่างนี้นะครับ ถ้าหากว่าสนใจก็ลองเข้าไปอ่านดูได้ครับ

https://www.honestdocs.co/what-is-panic-disorder

สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้หาต้นตอของอาการเจอนะครับ ถ้าหากว่ามีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามได้ครับ