ประจำเดือนมาล่าช้าไป 13 วัน มีเซ็กส์กับแฟนเมื่อต้นเดือนแต่สวมถุงยางอนามัย ( มี 2 ครั้งค่ะ ) และตรวจสอบการรั่วไหลทุกครั้งค่ะ อาการล่าช้าของประจำเดือนเริ่มเป็นตั้งแต่เดือน พ.ย. แต่มาช้าแค่ 5 วัน แต่เดือนนี้เป็นสิบวันแล้วค่ะ ไม่มีอาการปวดท้องใดๆ จะมีความผิดปกติอะไรรึเปล่าคะ หรือมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ไหมคะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันแล้วถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ จากที่เล่ามานี้โอกาสตั้งครรภ์จึงยังมีน้อย

อย่างไรก็ตามถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ความเครียด
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

สวัสดีค่ะ

กรณีใช้ถุงยางอนามัยคุมกำเนิดจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีการรั่วหรือขาด ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง ก็มีจะมีประสิทธิภาพในการคุมสูงสุดถึง 98% หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2% กรณีต้องการทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่นั้นให้ตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะ โดยสามารถตรวจได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 14 วัน และตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ

สำหรับสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนขาดได้นอกจากการตั้งครรภ์ เช่น ฮอร์โมนแปรปรวน ความเครียด ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ ออกกำลังกายหนัก น้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป มีเนื้องอกในมดลูก ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ เป็นต้น และถ้าประจำเดือนขาดนานเกิน 3 เดือนควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุค่ะ