June 04, 2020 09:23

หนูรู้สึกว่างเปล่าค่ะ คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงจะไปทางไหน ไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่คนเดียวไม่อยากออกไปเจอคนอื่น ไม่ชอบเจอคนอื่น กลัวว่าเขาจะคิดกับเรายังไง กลัวเขาจะเข้ามาคุยด้วย เวลามีคนโทรหาไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่อยากรับไม่อยากคุยรู้สึกหนักใจ(กับไรเดอร์ส่งอาหารหรือไปรษณีย์ก็เป็นค่ะ) ไม่กล้ามองหน้าคนอื่นด้วยชอบมองไปที่ว่างๆ เหม่อบ่อยมากแทบจะตลอดเวลากินข้าวอาบน้ำซื้อของรอของ พยายามไม่มองหน้าคน แล้วก็หงุดหงิดง่ายมากค่ะ แค่มีคนมาถามนิดหน่อยก็หงุดหงิดในใจไม่อยากตอบแต่ก็ต้องตอบพ่อแม่บอกให้ไปกินข้าวอาบน้ำก็ไม่อยากตอบรู้สึกหงุดหงิดไม่อยากคุยกับใคร ไม่อยากให้ใครมาพูดด้วยถ้าเราไม่ได้พูดก่อน แล้วก็ซึมบ่อยมากในหัวคิดไปเรื่อยบางทีก็ร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล บางทีก็อยากร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล เมื่อก่อน(1-2ปีก่อน)คิดอยากตายคิดทุกครั้งเวลาทะเลาะกับแม่หรือคนในบ้านทะเลาะกันก็จะรู้สึกว่าถ้าเราตาย จะหยุดทะเลาะกันมั้ยอะไรแบบนี้มีทำร้ายตัวเองนิดหน่อยแค่เอามีดเล็กที่ใช้กันคิ้วมากรีดแขนแล้วก็เอาเข็มวงเวียนมาขีดแขนตัวเองแต่ไม่ได้ทำแรงนะคะเพราะกลัวเจ็บแค่ทำเพราะรู้สึกเจ็บใจ แต่ตอนนี้รู้สึกว่างเปล่าทั้งเศร้าทั้งซึมแบบไม่มีเหตุผลหรือเราจับเหตุไม่ได้ก็ไม่รู้ ไม่อยากบอกใครเพราะเวลาบอกอะไรไปชอบโดนเมิน หนูร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง(เช่น ปวดท้องบ่อย เจ็บขาบ่อย เป็นปวดนั่นนี่เล็กๆน้อยๆ)แต่เวลาบอกใคร คนอื่นชอบทำเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆทั้งๆที่สำหรับเราเป็นเรื่องสำคัญ เวลามีเรื่องอะไรเลยไม่ค่อยบอกใครเพราะกลัวโดนเมิน ตอนนี้รู้สึกไม่โอเคเพราะอาการที่บอกไปข้างต้นเลยอยากไปหาจิตแพทย์แต่พ่อแม่พี่รู้แล้วเขาบอกจะพาไปตอนคุยกันก็ทะเลาะกันนิดหน่อยแต่ก็ไม่เชิง(เชิงแม่ไม่เข้าใจว่าเราเป็นยังไงจะเร่งให้ไปหาหมอใน3-4วัน)หนูไม่โอเคเลยค่ะไม่อยากไปกับคนอื่นไม่อยากให้ใครพาไปไม่อยากให้ใครมาเร่งรู้สึกไม่สบายใจที่จะไปหาหมอกับพ่อแม่ ตอนแรกคุยกับพี่เหมือนจะดีขึ้นแต่พอคุยกับแม่ พ่อแม่รู้เรื่อง หนูก็รู้สึกดาวน์กว่าเดิมไม่อยากบอกใครอีกแล้ว ทำไมต้องทำดีกับหนูปกติไม่เห็นทำ พอรู้ว่าหนูซึมก็มาทำเป็นดีด้วย ไม่อยากให้ใครมาสงสาร ก็เท่านี้ก่อนละกันค่ะยาวมากแล้ว อยากรู้ว่าหนูควรทำยังไงคะตอนนี้ในหัวว่างเปล่ามากคิดอะไรไม่ออกไม่รู้ควรทำไงต่อไปกับชีวิตแล้วก็กลัวด้วยถ้าจะไปพบหมอ ไม่รู้ว่าจะให้อะไรบ้าง

ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)