March 14, 2020 07:51
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยปกติแล้วมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2-18% ค่ะ กรณีที่ตรวจหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่รั่ว โอกาสตั้งครรภ์จะมีเพียง 2%เท่านั้น กรณีนี้หมอไม่แน่ใจว่าได้ตรวจสอบบริเวณโคนถุงยางก่อนถอดหรือไม่ว่าน้ำอสุจิได้รั่วซึมออกมานอกโคนหรือเปล่า กรณีที่มั่นใจแน่ว่าไม่มีน้ำอสุจิออกมา มีการใช้ขนาดถุงยางที่พอดี ก็ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ แต่ถ้าถุงยางนั้นมีการเลื่อนหลุด มีน้ำอสุจิออกมาตรงโคน หรือไม่แน่ใจและกังวลมาก แนะนำให้ทานยากำเนิดฉุกเฉินป้องกันไว้ โดยถ้าทานภายใน 120 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแล้ว 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอสอบถามครับ ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟน แต่ขณะมีเพศสัมพันธ์ผมใส่ถุงยางอนามัยตลอดเลยครับ แล้วตอนจะเสร็จภารกิจ แฟนผมขึ้นอยู่ข้างบนแล้วนอนอยู่ข้างล่างครับ พอเสร็จผมก็ปล่อยในครับ พอผมลุกขึ้นมาจะถอดถุงยางปรากฏว่า ถุงยางขยอนขึ้นมานิดนึงครับ มีน้ำเป็นฟองๆ อยู่รอบๆ โขนถุงยางครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำอสุจิของผมรึเปล่า แต่ผมเช็คแล้วถุงยางไม่รั่วครับ กรณีมีโอกาสที่น้ำอสุจิจะซึมออกบริเวณโขนถุงสูงรึเปล่าครับ แล้วมีโอกาสตั้งครรภ์กี่เปอร์เซ็นต์ครับ ผมไม่อยากให้แฟนผมกินยาคุมฉุกเฉินเลยครับ ขอคำแนะนำคุณหมอดสวยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)