ผมมีพสพกับแฟนวันที่5ครับเป็นวันไข่ตก ใส่ถุงยางอนามัย เช็คแล้วไม่ขาด ไม่รั่ว แต่ตอนหลั่งน้ำอสุจิข้างๆถุง กลัวมันล้นออกมา เลยให้แฟนกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน2เม็ดทีเดียว หลังจากมีพสพ ประมาณ42ชม ประมาณ1วันกับอีก18ชมครับ มีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยครับ แล้วที่กินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังวันตกไข่ไปแล้วจะป้องกันได้มั้ยครับ แล้วผลข้างเคียงจะอยู่กี่วันครับ และปจดจะมาวันไหนครับ

1.ถ้าใส่ถุงยางอนามัยเเล้วไม่ขาดไม่รั่ว เเต่มีอสุจิล้นออกมาข้างๆ โอกาสท้องก็น้อยอยู่เเล้วครับ

ถึงจะเป็นช่วงไข่ตก การกินยาคุมฉุกเฉินก็ลดโอกาสท้องได้ครับ รับประทานภายใน 72 ชม. ลดโอกาสท้องประมาณ 75% ครับ

2.หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้องครับ
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ

หากต้องการรีบตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ
ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยต่อครับ

วันที่ไข่ตกจริงอาจคลาดเคลื่อนไปจากวันที่คาดการณ์ไว้ได้ค่ะ ดังนั้น การใช้วิธีคุมกำเนิดมาตรฐานอย่างถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ ถือว่ารอบคอบดีแล้วนะคะ เพราะถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกวิธี เช่น เลือกขนาดไม่เหมาะสม หรือไม่ได้ถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดโดยเร็วหลังจากที่มีการหลั่ง ทำให้ถุงยางอนามัยไม่กระชับ และอาจมีน้ำอสุจิล้นออกมา หรืออาจมีปัญหาถุงยางเลื่อนหลุด ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้สูง เนื่องจากไม่มีผลป้องกันจากถุงยางที่ใช้

ในกรณีที่มีความเสี่ยงที่ถุงยางจะป้องกันไม่ได้ การรับประทานยาคุมฉุกเฉินอาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลง โดยถ้ารับประทานเร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้เหลือเป็น 15% แทนได้ค่ะ

ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานยา หรืออาจไม่พบเลยก็ได้นะคะ แต่แม้จะพบ ก็ไม่ได้มีอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ และสามารถหายไปเองได้ในไม่กี่วันค่ะ

ส่วนประจำเดือน ถ้าที่ผ่านมาแฟนของผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงเวลา เมื่อไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนรอบนี้ก็ควรจะมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันนะคะ

แต่ถ้าที่ผ่านมาแฟนของผู้ถามมีประจำเดือนมาไม่ตรงเวลาเรื่อย ๆ อยู่แล้ว ต่อให้ไม่ตั้งครรภ์ แต่ประจำเดือนรอบนี้ก็อาจคลาดเคลื่อนได้มากตามที่เคยเป็น ไม่ว่าจะมีการใช้ยาคุมฉุกเฉินหรือไม่ก็ตาม

ซึ่งถ้ากังวลใจ โดยเฉพาะถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกวิธี (ซึ่งถุงยางก็ควรจะกระชับและไม่มีการเล็ดรอดของน้ำอสุจิออกมา) และตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่จะกังวลค่ะ

แต่ถ้าผู้ถามใช้ถุงยางไม่ถูกวิธี และมีน้ำอสุจิเล็ดรอดออกมาจริง การใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองก็เหมาะสมแล้วค่ะ และอาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลงเป็น 15% แทนได้

การเปรียบเทียบที่ผู้ถามกล่าวมา ความเสี่ยงจะต่างกันในกรณีใช้ถุงยางถูกต้องและไม่มีปัญหานะคะ เพราะถ้ามีผลป้องกันอย่างดีจากถุงยาง ความเสี่ยงจะมีน้อยมากตามที่กล่าวไปข้างต้น แต่ถ้าไม่มีผลป้องกันจากถุงยางอนามัย ความเสี่ยงก็จะเป็น 15 - 25% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉินค่ะ