สวัสดีค่ะ หนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันที่ 19/3 โดยไม่ได้ใส่ถุงยางค่ะแต่เค้าหลั่งนอกค่ะ หนูประจำเดือนหมดวันที่ 15/3 ค่ะ ถ้ากินยาคุมตอนนี้จะทันมั้ยคะ

สวัสดีค่ะ

กรณีมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ซึ่งถือว่าสูงค่ะ กรณีที่มีเพศสัมพันธ์วันที่ 19 มีนาคม ยังสามารถทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินทันอยู่ค่ะ โดยถ้าทานภายใน 120 ชั่วโมง จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านมาแล้ว 14 วัน และให้ตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ

การมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอกแต่หากมีการสอดใส่โดยไม่ป้องกันอาจมีโอกาสที่อสุจิจะปะปนในสารคัดหลั่งทำให้เกิดการผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 4 ถึง 27 เปอร์เซ็นต์ค่ะ และการที่คนไข้จะใช้การนับรอบเดือนนั้นคือหลักการของหน้า 7 หลัง 7 จะค่อนข้างใช้ได้ดีก็ต่อเมื่อคนไข้มีรอบเดือนที่สม่ำเสมอและล่าสุดนั้นเป็นรอบเดือนตามปกติจริง

ดังนั้นทางที่ดีควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้โดยยิ่งรีบทานได้เร็วก็จะยิ่งมีโอกาสคุมกำเนิดได้สูง โดยไม่ควรล่าช้าเกิน 120 ชั่วโมงค่ะ

อีกทั้งอาจมีการตรวจทดสอบการตั้งครรภ์ที่ประมาณ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดค่ะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ 4-22% ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก่อนเพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% ครับ

โดยทั่วไปถือว่าการหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% นะคะ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่าการคุมกำเนิดมาตรฐานมาก จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ

ถ้าผู้ถามต้องการใช้ "ยาคุมรายเดือน" แผงแรกในตอนนี้ จะไม่สามารถลดความเสี่ยงที่มีได้แล้วนะคะ เนื่องจากยาคุมรายเดือนไม่มีผลป้องกันฉุกเฉิน และหากเริ่มใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนของยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะเริ่มคุมกำเนิดได้

และถ้ามีการตั้งครรภ์ขึ้นมาแล้วก่อนที่จะมีผลป้องกันจากยา ต่อให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อไป แต่การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ

หากต้องการลดความเสี่ยงที่มี แนะนำให้รับประทาน "ยาคุมฉุกเฉิน" ทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ อาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีลงมาได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของ "ยาคุมฉุกเฉิน" ไม่ได้สูงนัก แม้จะรับประทานเร็วและครบขนาด ผู้ถามก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ค่ะ ดังนั้น ต่อไปจึงไม่ควรนำมาใช้เพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยางอนามัยนะคะ เนื่องจากเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จ และอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็น

เมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว อาจมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่มีก็ได้ ไม่สำคัญอะไร เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาเท่านั้นเอง

ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนของผู้ถามควรจะมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มากนะคะ

ดังนั้น ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ