มีประจำเดือนวันที่18 ม.ค 63หมดวันที่22 มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอกวันที่24 มีโอกาสท้องมั้ยคะ หรือยังนับว่าอยู่ในระยะปลอดภัยอยู่

มีโอกาสท้องได้ครับ
หากประจำเดือนหมดไปอล้วครับ
ฉะนั้นควรทานยาคุมฉุกเฉินภายใน120ชั่วโมงหลังเสี่ยงครับ
เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
และตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะหลังเสี่ยงตั้งแต่14วันขึ้นไปครับ
ยาคุมฉุกเฉินป้องกันการตั้งครรภ์ได้80%

สวัสดีครับ
ในทางปฏิบัตินั้นจะไม่แนะนำให้ใช้การนับวันปลอดภัยเพื่อมีเพศสัมพันธ์ครับ และการมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ 4-22%

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก่อนเพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% ครับ

เเม้โอกาสจะน้อยเเต่ก็มีโอกาสท้องครับ เนื่องจากการนับระยะปลอดภัยหน้า7หลัง7นั้น ใช้เฉพาะคนที่รอบเดือนสม่ำเสมอ อีกอย่างคือการนับวันเเบบนี้มีโอกาสที่จะพลาดมีไข่ตกมา เเล้วหลุดท้องได้ครับ
เเนะนำ ถ้ายังไม่เกิน120 ชม. นับจากที่มีเพศสัมพันธ์ ปรึกษาเภสัชกร
สามารถให้รับประทานเป็น ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ตามร้านยาจะเป็น ยี่ห้อ Postinor,Madonna (ตัวยาชนิดเดียวกัน)แต่ละกล่องจะมี ยา 2 เม็ดหรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte ครับ

สวัสดีครับ
การนับระยะปลอดภัยจะนับจากประจำเดือนวันแรกไปข้างหน้า 7 วัน และหลัง 7 วันครับ หากประจำเดือนวันแรกวันที่ 18 ในวันที่ 24 ยังถือว่าอยู่ในระยะปลอดภัยครับ การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้แบบไม่ได้ป้องกันจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 5-24% ครับ ส่วนการหลั่งนอกนั้นมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ครับ

แม้จะยังอยู่ในช่วง "วันปลอดภัย หน้า 7 - หลัง 7" แต่ถ้าหลั่งในก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 24% นะคะ แต่เมื่อใช้วิธีหลั่งนอก ก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ

หากเทียบกับการมีเพศสัมพันธ์หลั่งในนอกช่วงเวลานี้ ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ก็อาจดูว่าวิธีที่ผู้ถามและแฟนใช้นั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ถ้าเทียบกับการป้องกันด้วยวิธีมาตรฐาน อย่างการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งถ้าใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ก็จะเห็นได้ว่ายังมีความเสี่ยงสูงกว่ามากนะคะ

ดังนั้น หากต้องการลดความเสี่ยงที่มี ควรพิจารณาการรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15 - 25% ได้ถ้าใช้ครบขนาดและทันเวลาค่ะ

ในกรณีของผู้ถาม ยังสามารถรับประทานได้ และควรรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียว นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ดก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวนะคะ

จากนั้นก็ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือเปล่า เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

ถ้าหากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหรือ 5 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ครับ และควรรับประทานให้เร็วที่สุดเพื่อให้ยามีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีที่สุดครับ

สาทารถทานได้ครับ หากยังไม่เกิน72ชั่วโมงไปจนถึงไม่เกิน120-130ชั่วโมง ยังสาทารถทานได้ครับ

โดยส่ทารถไปซื้อที่ร้านขายยาได้ครับ
เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

และภายหลังทานยาคุมฉุกเฉินแล้ว อาจมีเลือดออกผิดปกติ คล้ายประจำเดือนได้ใน1-7วันหลังทานยาครับ
ซึ้งอาจไม่ใช่ประจำเดือน
จึงควรรอรอบเดือนมา หากมาช้ากว่าปกติเดิน7วัน ควรตรวจการตั้งครรภ์ครับ

ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนะคะ

ในปัจจุบัน แนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO 2016) และ ศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา (US CDC 2016) แนะนำว่าแม้จะเกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ยังสามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ (อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับการใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ)

แต่ยังไม่มีแนวทางใดที่แนะนำให้ขยายเวลาไปถึง 130 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ