March 04, 2020 14:43
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในช่วงที่รับประทานยาคุมอยู่จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ และการที่ได้มีประจำเดือนมาแล้วหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายก็จะเป็นการยืนยันได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ในกรณีที่ไม่มีการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่งแต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือเดือน พ.ย 62หลังจากเป็นประจำเดือน ดิฉันทานยาคุมแบบ28เม็ดคะ มาแล้วมาเป็นประจำเดือนอีกทีวันที่ 15 ธ.ค62และกินต่อแผงที่2 คะ และวันที่ 3 ม.ค63 มีอะไรกับแฟน 1ครั้ง และมาเป็นประจำเดือนอีกครั้ง 13ม.ค63 ทานยาแผงที่2หมดแล้วก็ไม่ได้ทานอีกแชะไม่ได้มีอะไรกับแฟนอีกเลยตั้งแต่นั้นมา จนวันนี้วันที่25 กพ.63 ยังไม่ประจำเดือนคะดิฉันมีโอกาสท้องไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)