September 03, 2019 02:35
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ตกขาวที่เป็นปกตินั้นควรจะมีลักษณะเป็นมูกใสๆหรือมีสีขาวขุ่นได้เล็กน้อย โดยที่จะต้องไม่มีกลิ่นเหม็นหรือก่อให้เกิดอาการคันครับ
การที่ตกขาวเปลี่ยนไปเป็นสีเขียวและทำให้เกิดอาการคันนั้นอาจเป็นการบ่งบอกถึงการติดเชื้อแบคทีเรียหรือโปรโตซัวบางชนิดในช่องคลอดได้
ส่วนเรื่องที่มีประจำเดือนมาผิดปกติ มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดนั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ สำหรับการตกขาว ถ้ามีตกขาวสีผิดปกติ มีกลิ่น คือตกขาวที่ผิดปกติครับ
ตกขาวปกติจะสีขาวใส ไม่มีกลิ่นและตกขาวผิดปกติ ส่วนใหญ่อาจจะเกิดได้จาก
1.การติดเชื้อที่ปากมดลูก คือการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆที่ปากมดลูก จะทำให้มีตกขาวมีกลิ่น สีผิดปกติ
2.การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน จะมีอาการปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่น
3.การติดเชื้อที่มดลูก จะทำให้ปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ และมีกลิ่นได้เช่นกัน
การรักษาทุกอย่างที่กล่าวไปคือการได้รับยาฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสมครับ แนะนำว่าควรไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันครับ
สำหรับการตกขาว ถ้ามีตกขาวสีผิดปกติ เช่น สีดำ สีน้ำตาล สีแดงและ มีกลิ่น อาจจะเกิดได้จาก
1.การติดเชื้อที่ปากมดลูก คือการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆที่ปากมดลูก จะทำให้มีตกขาวมีกลิ่น สีผิดปกติ
2.การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน จะมีอาการปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่น
3.การติดเชื้อที่มดลูก จะทำให้ปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ และมีกลิ่นได้เช่นกัน
ส่วนใหญ่จะเกิดจากโรคติดเชื้อดังนี้ครับ เช่น
1.เกิดจากเชื้อรา หรือ candidiasis vaginalis ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจาก การติดเชื้อรา ชื่อ candida albican ครับ ซึ่งจะมีตกขาวสีขาวคล้ายนมบูด
มีกลิ่นเหม็นคาว และคันช่องคลอดครับ ซึ่งสามารถ รักษาได้โดยการสองยา ฆ่าเชื้อราในช่องคลอดครับ
2.การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือ bacterial vaginalis สำหรับ อาการคือ มีอาการคันช่องคลอดได้เช่นกิน อาจจะมีกลิ่นตกขาวคล้ายปลาเน่า คันและแสบช่องคลอดได้ครับ ตกขาวอาจจะสีเขียว หรือขาวขุ่น การรักษาคือการกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียครับ
3.การติดเชื้อที่ชื่อว่าโปรโตซัวชนิดหนึ่ง หรือ trichomoniasis vaginalis ซึ่งจะมีอาการคันช่องคลอด เจ็บปากมดลูก เวลามีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีเลือดปนได้ ตกขาวมีกลิ่นคาว สีเขียว สีขาวขุ่น หรือสีแดงคล้ำได้ครับ การรักษาคือการกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเช่นเดียวกันครับ เป็นต้น
สำหรับการที่มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ
จะมีสาเหตุต่างๆ ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ เช่น
1.การติดเชื้อที่ปากมดลูก อุ้งเชิงกราน
2.มีติ่งเนื่อที่มดลูก
3.มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก
4.การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
5.เนื้องอกมดลูก
6.ภาวะเนื้อเยื่อมดลูกเจริญผิดตำแหน่ง เป็นต้นครับ
เบื้องต้นแนะนำว่าควรไปตรวจความผิดปกติต่างๆที่โรงพยาบาลอีกทีครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
2-3 วันที่ผ่านมา ตกขาวปกติเป็นสีขาว ใส ไม่มีกลิ่น มาวันนี้ตกขาวเป็นสีเขียวปริมาณไม่มาก รู้สึกคันเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ ประมาน 7 วัน มีเลือดออกกระปริบกระปรอยทางข่องคลอด 2-3 วัน ซึ่งตรงกับช่วงประจำเดือนมาของเดือนที่แล้ว แต่ปริมาณเลือดน้อยมากๆ จนไม่ต้องใส่ผ้าอนามัย อยากทราบว่าเป็นอาการผิดปกติที่ร้ายแรงไหม เป็นนักศึกษา อายุ 21 อ่าน นส ดึก พักผ่อนน้อย และเคยไปหาหมอเรื่องเมนมาไม่ปกติตอนอายุ 12 กินยาอยู้ ครึ่งปี ( จำไม่ได้ว่ายาอะไร) ไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)