ผมมี พสพ วันที่29 มกราคม และไม่รู้เป็นช่วงตกไข่หรือเปล่าแฟนมีประจำเดือนล่าสุด 12มกราคม มีการลองใส่สด และ เอาออกไม่ได้หลั่งใน และกินยาคุมฉุกเฉินวันที่30ตอน12.20 และกินเม็ดที่สองตอน23.50 วันที่5กุมภา มีเลือดออกมามีสีน้ำตาลและค่อยๆเป็นสีแดงปกติ เป็นผลจากยาหรือประจำเดือนหรอครับ มีเลือดออกคล้ายประจำเดือนหรือผมไม่แน่ใจอาจเป็น ปจด เดือนก็ได้ตามรูปคุณหมอคิดอย่างไรบ้าง

น่าจะพิมพ์เดือนผิด โดยที่ถูกต้องควรจะเป็น "วันที่ 5 กุมภาพันธ์ มีเลือดออกมาสีน้ำตาล" ใช่มั้ยคะ?

เนื่องจากไม่ทราบรอบประจำเดือนของแฟนผู้ถาม จึงไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาครั้งนี้มาตรงกับรอบประจำเดือนปกติเดิมหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม รอบประจำเดือนปกติจะเป็น 24 - 35 วัน นอกจากนี้ ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินก็อาจส่งผลให้ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าที่คาดไว้เล็กน้อยได้เช่นกัน

เลือดที่ออกมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งห่างจากวันแรกที่มีประจำเดือนครั้งล่าสุด (คือ 12 มกราคม) นาน 24 วัน จึงอาจเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย หรืออาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินที่พบภายใน 7 วันหลังรับประทานไปในวันที่ 30 มกราคมก็ได้ค่ะ

ดังนั้น แนะนำให้รอดูไปก่อนว่าเลือดที่ออกมาจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน ตามลักษณะของประจำเดือนปกติหรือไม่ เพราะถ้าเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ควรจะเป็นเพียงหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัยค่ะ

แต่ถ้าไม่มีเลือดออกมาตรงกับลักษณะของประจำเดือนดังที่แนะนำไปข้างต้น หรือถ้าไม่มั่นใจ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

สวัสดีค่ะ

จากประวัติมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่โดยไม่ได้ป้องกัน และได้ทำการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 120 ชั่วโมง เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วค่ะ โดยยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% และหลังทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปอาจมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นประจำเดือนควรจะมาในช่วงใกล้เคียงเวลาเดิม หรือยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้แต่มักไม่เกิน 1 สัปดาห์ค่ะ อย่างไรก็ตามหลังจากมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแล้ว 14 วันสามารถตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะได้ โดยให้ตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด และหลังจากนี้แนะนำให้หาวิธีป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์ค่ะ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน เป็นต้นค่ะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่นั้นถึงจะไม่มีการหลั่งก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ ทำให้มีโอกาสตัครรภ์ได้ 4-22% ครับ แต่การที่ได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% ครับ

หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ โดยจะมีเลือดที่มีลักษณะกระปริดกระปรอย และออกมาติดต่อกันนานไม่เกิน 3-7 วัน แต่ถ้าหากมีเลือดออกมาในปริมาณมากกว่านี้ก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ

นอกจากนี้หมอก็แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจด้วย โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

"แฟนไม่มีอาการปวดท้องหรือเจ็บเต้านมก่อนประจำเดือนมาครับ เป็นไปได้ไหมที่จะไม่มีอาการ หรืออาการจะมาภายหลัง"

อาการก่อนมีประจำเดือนอาจเกิดขึ้นจนสังเกตได้ชัดหรือไม่ก็ได้ค่ะ และแม้จะมีอาการดังกล่าวขึ้นมา ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นอาการก่อนมีประจำเดือน หรือเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินกันแน่นะคะ

ในตอนนี้ แนะนำให้รอดูไปก่อนค่ะ ถ้ามีเลือดออกมามากและต่อเนื่องกันจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน โดยเฉพาะถ้าแฟนของผู้ถามทบทวนประวัติการมีประจำเดือนย้อนหลังแล้วพบว่า เลือดที่ออกมานี้ มาตรงกับช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีประจำเดือนในรอบนี้พอดี หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบปกติเดิมนั่นเองนะคะ

ซึ่งถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วค่ะ

แต่ถ้าไม่มีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย หรือถ้าไม่มั่นใจ และกังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ