เป็นตุ้มแดงๆ คันๆ บริเวณที่ก้นอะครับ เป็นมาสัก2-3เดือนแล้วครับ มีอาการคันประมาณตอนดึกๆ หรือ ตอนที่เหงื่อออกครับ ลองทายาcanestenแล้วต่างๆดูแล้ว มันยุบลงไป แต่พอสักพักก็มาเป็นอีกอะครับ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร

สวัสดีครับ ถ้าคันมาก อาจจะเกิดจากโรค 
1.กลาก ซึ่งเป็นเชื้อรา กลุ่ม dermatophyte ครับ จะมีอาการคัน มีผื่นวงแดง มีขุ่ยๆลอก การรักษาคือ การทายาฆ่าเชื้อราอย่างน้อย 2 อาทิตย์ครับ 
2.เชื้อราพวก candida ซึ่งจะคันมาก มีตุ่มแดงๆขึ้นตามที่ต่างๆ ไม่มีขุ่ย การรักษาคือการทายาแก้เชื้อราอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่นกันครับ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้ลองตรวจกับแพทย์ที่โรงพยาบาลดูครับ

ถ้าการที่ใช้ยาทาแล้วยุบเพราะอาจจะไม่ได้ทาต่อเนื่อง จึงกลับมาเป็นใหม่ได้ครับ นอกจากทายายังต้องดูแลความสะอาดครับ

สวัสดีค่ะ สำหรับอาการคันบริเวณก้นเกิดได้หลายสาเหตุค่ะ เช่น
-ผื่นคันจากการแพ้สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เช่นแพ้สบู่ น้ำหอม กางเกงในที่ใส่
-จากการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และจากเชื้อรา
-อาการคันจากหูดซึ่งจะพบรอยโรคเป็นติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำ มีประวัติมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันมาก่อน
-สาเหตุจากอื่นๆ เช่น จากเหาหรือโลน จากพยาธิ จากความเครียด จากโรคมะเร็ง เป็นต้นค่ะ
ยังไงแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและจะได้ทำการรักษานะคะ