สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอายุ17ปี คือว่าหนูรู้สึกว่าตัวเองเป็นสิวฮอร์โมนมาตั้งเเต่ขึ้นม.ปลายน่ะค่ะ ขึ้นช่วงกรอบหน้าช่วงกราม คาง ลำคอ บ่อยมากๆเลยค่ะ มันเป็นปัญหากวนใจมากๆค่ะ ยิ่งช่วงประจำเดือนใกล้จะมายิ่งเป็นหนักเลยค่ะขึ้นมา4-5เม็ด บวมๆแดงๆเลยค่ะ มันทำให้หนูไม่มั่นใจเลยอยากจะปรึกษาคุณหมอค่ะ ว่ามีวิธีรักษายังไงคะหรือทำให้มันดีขึ้นกว่านี้น่ะค่ะ มีคนให้ลองกินยาคุมแต่หนูกลัวผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นตามมาน่ะค่ะ เลยมาปรึกษาคุณหมอจึงเป็นสิ่งดีที่สุด ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอบพระคุณมากๆค่ะ🙏

ถ้าสัมพันธ์กับรอบประจำเดือน เเนะนำปรึกษาสูตินรีเเพทย์หรือเภสัชกรเบื้องต้น เรื่องพิจารณายาคุมกำเนิดครับ
ถ้าเเนะนำก็ต้องยาคุมรุ่นใหม่ๆ ที่เอสโตรเจนต่ำ เเละ มีโปรเจสเตอโรนที่ช่วยต้านฮอร์โมนเพศชาย จะช่วยเรื่องลดหน้ามัน ลดสิวได้ครับ เช่น
- Yaz น่าจะดีที่สุด กรณีไม่อยากน้ำหนักขึ้น เพราะเอสโตรเจนต่ำที่สุด เเละช่วยลดสิวได้ด้วยครับ อาการคลื่นไส้อาเจียนก็น้อย อาการบวมก็น้อยกว่า ระยะยาวโอกาสเกิดฝ้าก็น้อยกว่าครับ เเต่ถ้ากินไม่ตรงเวลาอาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ครับ ต้องกินให้ตรงเวลา
- Yasmin Sucee Preme ช่วยลดสิวได้ เเต่เอสโตรเจนจะมากขึ้นอาการเลือดออกกระปริบกระปรอยจะน้อยลง เเต่อาจทำให้บวมขึ้นมากกว่าครับ เเละอาการคลื่นไส้จะมากกว่าครับ

เรื่องสิว ถ้าเป็นมากเป็นคนหน้ามัน เเนะนำพบเเพทย์นะครับ โดยเฉพาะเเพทย์ผิวหนัง ตามรพ.ใหญ่ๆ หรือสถาบันโรคผิวหนัง ถ้าตามคลินิคความงามต้องดูครับว่าเเพทย์คนที่รักษาเป็นเเพทย์ที่จบเฉพาะทางด้านผิวหนังหรือไม่ครับ เช็คในเว็บเเพทยสภา https://www.tmc.or.th/check_md/
คุณหมอต้องจบสาขา ตจวิทยาครับ
สาเหตุของสิวคือต่อมไขมันมีการอุดตัน เป็นหัวสิว เเละถ้ามีการติดเชื้อเเทรกซ้อน จะมีหัวสิวเป็นหนองได้ครับ

สิวเกิดได้ในวัยรุ่น เเต่บางครั้งก็เกิดจากสาเหตุที่ซ่อนอยู่ได้เช่นกัน
เช่น โรคถุงน้ำรังไข่(ในเพศหญิง อาการคือ มีสิวเยอะ มีขนเยอะเหมือนผู้ชาย หนวด ขนหน้าเเข้ง ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ)กลุ่มอาการคุชชิ่งเป็นต้น
โดยถ้าสงสัยภาวะถุงน้ำรังไข่หรือสิวขึ้นสัมพันธ์กับประจำเดือน ควรพบสูตินรีเเพทย์ครับ

การรักษาหลักๆ ขึ้นกับความรุนเเรงครับ ถ้าเป็นมากต้องกินยาพวก Tretinoin ซึ่งต้องจ่ายโดยแแพทย์ผิวหนังเท่านั้น ร่วมกับการกดสิว ฉีดสิวครับ ยารักษาพวก Benzoyl peroxide , RetinA ,Differin ,Clindamycin หรือยากินฆ่าเชื้อ พวกDoxycycline พวกนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาครับ ให้คุณเภสัชช่วยอธิบายได้ครับ

การรักษาสิวนั้นมักจะต้องตรวจสภาพผิวหน้าและประเภทของสิวอย่างละเอียดจึงจะวางแนวทางการรักษาได้อย่างเหมาะสมค่ะ แต่หากเป็นสิวที่มีอาการแดงอักเสบเจ็บมักจะต้องใช้ยาทาฆ่าเชื้อเช่น clindamycin gel สามารถใช้เป็นครั้งคราวได้แต่ถ้าหากใช้ตัวเดียวไม่แนะนำให้ใช้ติดต่อกันนานๆเนื่องจากมีโอกาสดื้อยาได้สูง และโดยทั่วไปคนไข้อาจมีสิวหลายประเภทเช่นสิวอุดตันร่วมด้วยซึ่งจะต้องใช้ยาอื่นๆเช่น benzac, retin a แต่ยาพวกนี้มักจะมีอาการระคายเคืองจึงต้องใช้อย่างถูกต้องและอยู่ในความดูแลของแพทย์ผิวหนังค่ะ รวมทั้งการฉีดสิวก็อาจช่วยได้เพิ่มเติม

สำหรับยากินหากมีอาการอักเสบมากใช้ยากินแก้อักเสบเบื้องต้นเช่น doxycycline เป็นต้นในช่วงสั้นๆแต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้และปรับยาเองเช่นกันค่ะ

ถ้าหากไม่ดีขึ้นจึงค่อยไปใช้ยากลุ่มอื่นที่อาจมีผลข้างเคียงมากกว่าจึงต้องดูแลโดยแพทย์ผิวหนังโดยตรง เพราะอาจต้องคุมกำเนิดในขณะใช้ยานี้ให้ดีไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อตัวอ่อนในครรภ์ หรือมีอาการแห้งตามที่ต่างๆได้สูงค่ะ

สำหรับยาคุมมักจะใช้ในกรณีที่เมื่อคนไข้ต้องการคุมกำเนิดอยู่แล้วและมีผลของยาคุมที่ช่วยเพิ่มเติม หรือมีภาวะบางอย่างที่ต้องใช้ฮอร์โมนเช่นเป็นสิวจากการมีถุงน้ำในรังไข่หลายใบเป็นต้น ซึ่งต้องตรวจโดยสูตินรีแพทย์ค่ะจึงไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมเองหากไม่มีข้อบ่งใช้เหล่านี้ค่ะ
/แพทย์ผิวหนัง