มีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยที่รอบที่2แฟนไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย แต่หลั่งนอก และหนูก็กินยาคุมฉุกเฉินแล้ว แต่หลังจากนั้นประมาณ2-3ชั่วโมงมีอาการท้องเสียหลายรอบ แบบนี้จะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงไหมคะ แล้วมีโอกาสจะท้องรึเปล่าคะ

ต่อให้มีการหลั่งไปแล้วในรอบแรก แต่ก็ไม่สามารถจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีอสุจิตกค้างอยู่นะคะ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยจึงถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ

ซึ่งการหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ 4 - 22% แต่โดยทั่วไปจะถือว่าความเสี่ยงค่อนไปทางสูง คือ 22% นะคะ เมื่อเทียบกับการใช้ถุงยางอนามัย ที่ถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาดจะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ก็จะเห็นได้ว่าการหลั่งนอกไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ

การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน อาจช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวลงมาได้ โดยเฉพาะถ้าใช้เร็วและครบขนาด แต่เนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก ผู้ใช้ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ

ส่วนการถ่ายเหลวของผู้ถาม ไม่มีปัญหาค่ะ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ถ่ายเหลวอย่างรุนแรงและต่อเนื่องกันมากกว่า 24 ชั่วโมง ก็ไม่ถือว่าลดประสิทธิภาพของยาคุมที่ใช้ค่ะ

ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน มีอยู่เพียงชนิดเดียว ก็คือ "ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล" ค่ะ แต่มี 2 รูปแบบ ได้แก่...

1. แบบที่มีแผงละ 2 เม็ด ได้แก่ ยี่ห้อโพสตินอร์, มาดอนนา, แมรี่พิงค์, นอร์แพ็ก และเลดี้นอร์ ซึ่งจะมีตัวยาลีโวนอร์เจสเทรลเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัมนะคะ รวม 2 เม็ดก็จะเป็น 1.5 มิลลิกรัมนั่นเอง

2. แบบที่มีแผงละ 1 เม็ด ได้แก่ ยี่ห้อเมเปิ้ลฟอร์ท และแทนซีวัน ซึ่งจะมีตัวยาลีโวนอร์เจสเทรลเม็ดละ 1.5 มิลลิกรัมค่ะ

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด หรือรูปแบบใด ก็มีปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากันหมดนะคะ เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนกับ "เหรียญ 1 บาท จำนวน 2 เหรียญ" กับ "เหรียญ 2 บาท จำนวน 1 เหรียญ" นั่นเอง ดังนั้น ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงจึงไม่แตกต่างกันค่ะ
..
..
..
ส่วนอาการท้องเสียของผู้ถาม คาดว่าไม่น่าจะเป็นการ "ถ่ายเหลวอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง" เพราะหากเป็นเช่นนั้น ผู้ถามคงไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์แล้วค่ะ และเมื่อการถ่ายเหลวแม้จะเป็นต่อเนื่องหลายวัน แต่ถ้าไม่เข้าข่ายที่กล่าวไปข้างต้น ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับประสิทธิภาพของยาคุมอยู่ดีนะคะ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ได้สูงมากอยู่แล้ว ดังนั้น แม้ประสิทธิภาพของยาจะไม่ได้ลดลงจากการถ่ายเหลว แต่ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ซึ่งถือว่าสูงกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานมากค่ะ ต่อไปจึงควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แทนที่จะใช้การหลั่งนอกร่วมกับการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ

หากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้มากกว่า 90% จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อน (ช้าหรือเร็วก็ได้) ไม่เกิน 4 วันค่ะ ซึ่งประจำเดือนปกติก็จะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยา จะเป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดออกกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย โดยอาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ค่ะ ไม่ได้สำคัญอะไร

ดังนั้น แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนโดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ใช้ปัสสาวะแรกของวัน และตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ