สวัสดีค่ะ พอดี เพื่อนเป็น HIV แต่กินยาจนหาเชื้อไม่เจอค่ะ แล้วทีนี้ เราดันเอานิ้วไปโดนเลือดเค้า จะเป็นอะไรไม่คะ

สวัสดีครับ
ถึงแม้เพื่อนจะรับประทานยาจนไม่พบเชื้อไวรัสในเลือดแล้ว แต่การสัมผัสกีบเลือดโดยตรงนั้นก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าจะปลอดภัยจากการติดเชื้อหรือไม่ครับ

ในกรณีนี้ถ้าหากไม่มีแผลอยู่ที่บริเวณมือที่สัมผัสก็ถือว่าปลอดภัยต่อการติดเชื้ออยู่ครับ แต่ถ้าบริที่สัมผัสเลือดมีแผลอยู่ก็จะถือว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ และถ้าหากเป็นในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสมารับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อภาย 72 ชั่วโมงหลังสัมผัสเลือดครับ

ถ้านิ้วคุณไม่ได้เป็นแผลสด ก็ไม่ติดนะครับ อีกอย่างถ้าคนที่มีเชื้อ กินยาจนยืนยันได้ว่าตรวจหาเชื้อไม่เจอ โอกาสติดนั้นน้อยมากๆเลยครับ

กรณีสงสัยเรื่องติดเชื้อ HIV เเละกังวล
หลังจากมีพฤติกรรมเเสี่ยงประมาณ 5-7 วัน ก็สามารถไปตรวจได้ครับ เช่นที่ คลินิคนิรนาม หรือ รพ รัฐ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ตรวจได้เกือบหมดครับ
ถ้าหากยังไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อขอรับยาต้านไวรัสHIVมารับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนได้ครับ (ยาPrEP)

โดยหลังจากได้รับเชื้อ ในช่วงแรก สารพันธุกรรมของไวรัส (RNA และ DNA) ก็แบ่งตัวจะขยายจำนวนเพิ่มขึ้นจนมากพอที่เราสามารถใช้เทคนิคที่เรียกว่า NAAT (nucleic acid amplification testing) ตรวจได้หลังมีพฤติกรรมเสี่ยง 5-7 วันครับ

หลังจากนั้นจะมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น ตรวจหาAntigen(p24) Antibodyซึ่งคือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายมีต่อเชื้อ(Anti HIV) ซึ่งมักตรวจได้หลังรับเชื้อประมาณ 1 เดือนขึ้นไป(ถ้าเป็นน้ำยา4th genจะตรวจเจอได้เร็วกว่า) โดยทั่วไปเเนะนำว่าจะเจอหลังติดเชื้อ3เดือน (พ้นระยะฟักตัว)ครับ