Klebsiella pneumoniae เป็นเชื้อในกลุ่ม “superbug” ที่สามารถก่อให้เกิดโรคได้หลากหลายขึ้นกับตำแหน่งของร่างกายที่ติดเชื้อ
Klebsiella pneumoniae คือเชื้อแบคทีเรียที่ปกติจะอาศัยในลำไส้มนุษย์ และไม่ก่อให้เกิดโรค แต่หากเชื้อนี้แพร่ไปอยู่ในตำแหน่งอื่นๆในร่างกาย ก็จะสามารถทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้นได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
โรคเหล่านี้ได้แก่
- โรคติดเชื้อในปอด
- โรคติดเชื้อในกระแสเลือด
- โรคติดเชื้อที่บาดแผล
- โรคติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
- โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
วิธีแพร่เชื้อของ Klebsiella Pneumoniae
โรคติดเชื้อ K. pneumoniae มักจะเป็น “โรคติดเชื้อในโรงพยาบาล” หรือหมายถึงเชื้อที่ได้รับจะมาจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ป่วย หรืออยู่ระหว่างการพักฟื้นจากการบาดเจ็บหลังทำหัตถการต่างๆ มักเป็นกลุ่มที่มักติดเชื้อ Klebsiella ในขณะที่ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ไม่ต้องกังวลว่าจะติดเชื้อดังกล่าว จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค(Centers for Disease Control and Prevention; CDC) เชื้อแบคทีเรียนี้ไม่แพร่ทางอากาศ การติดเชื้อ K. pneumoniae ไม่สามารถติดได้จากการหายใจโดยใช้อากาศร่วมกับผู้ติดเชื้อ แต่เชื้อนี้จะแพร่โดยการสัมผัสระหว่างบุคคลแทน โดยจะเกิดเมื่อผู้ที่มีมือปนเปื้อนเชื้อไปสัมผัสบาดแผล
นอกจากนี้แล้ว การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นโดยการใช้อุปกรณ์การแพทย์ที่ปนเปื้อนเชื้อได้เช่นกัน เช่น ผู้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจสามารถติดเชื้อ Klebsiella pneumonia หากท่อช่วยหายใจที่ใช้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว เช่นเดียวกันกับการใช้เข็มคาหลอดเลือดดำที่ปนเปื้อน ก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ Klebsiella ด้วยเช่นกัน
อาการของโรคติดเชื้อ K. pneumoniae
อาการของโรคติดเชื้อ K. pneumoniae ต่างกันไปขึ้นกับบริเวณที่ติดเชื้อ และมีลักษณะคล้ายกับอาการของโรคเดียวกันที่เกิดจากการติดเชื้อตัวอื่น เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจาก K. pneummoniae ทำให้เกิดอาการที่เป็นลักษณะเด่นของโรคติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองจากแบคทีเรีย ได้แก่ ไข้ สับสน คอแข็ง และมีความรู้สึกไวต่อแสงจ้า โรคติดเชื้อในกระแสเลือดจาก Klebsiella ก่อให้เกิดไข้หนาวสั่น ผื่น วิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม และมีอาการซึมหรือหมดสติ
โรคติดเชื้อในปอดจากเชื้อ K. pneumoniae สามารถแสดงอาการดังนี้
- ไข้หนาวสั่น
- อาการคล้ายไข้หวัด
- ไอ โดยอาจมีเสมหะสีเหลือง เขียว หรือปนเลือดออกมาด้วย
- มีปัญหาในการหายใจ
การรักษาโรคติดเชื้อ Klebsiella
โดยทั่วไปแพทย์ใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคติดเชื้อ K. pnuemoniae แต่ทว่าการเพิ่มขึ้นของเชื้อแบคทีเรียดื้อยาทำให้สถานการณ์ยุ่งยากมากขึ้น เชื้อในกลุ่ม “superbug” บางสายพันธุ์ของเชื้อ K. pneumoniae ดื้อต่อยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่ รวมไปถึงยา carbapenems ที่นับว่าเป็นยาปฏิชีวนะที่พึ่งพิงสุดท้ายอีกด้วย เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้สร้างเอนไซม์ Klebsiella pneumoniae carbapenemases (KPC) ซึ่งจะทำให้ยาปฏิชีวนะหมดสภาพ เชื้อดื้อยาสูงเหล่านี้เป็นเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม carbapenem-resistant Enterobacteriaeceae หรือ CRE Carbapenem-resistant Klebsiella เป็นเชื้อ CRE ที่พบได้มากที่สุด และทำให้เกิดการติดเชื้อและการเสียชีวิตประมาณ 7,900 ราย และ 520 รายตามลำดับ จากข้อมูลของ CDC ในการรักษา CRE แพทย์ต้องพึ่งกลุ่มยาปฏิชีวนะฤทธิ์สูงที่ยังใช้กับแบคทีเรียกลุ่มนี้ โดยเฉพาะเมื่อใช้เป็นยาสูตรผสม จากรายงานในวารสาร Diagnostic Microbiology & Infectious Disease ฉบับเดือนมกราคม 2013
ยาเหล่านี้ได้แก่
- Aminoglycosides
- Polymyxins
- Tigecycline
- Fosfomycin
- Temocillin
เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเดียวกันในช่วงๆเวลาใกล้กันได้หรือไม่คะ