การมีปุ่ม ฝ้า หรือจุดในปากอาจไม่ใช่เรื่องอันตราย แต่ในบางครั้ง มันสามารถบอกเป็นนัยๆ ได้ว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับสุขภาพโดยรวมของคุณ การติดเชื้อ ความเครียด ยา และแม้แต่อายุก็สามารถทำให้ลิ้นของคุณผิดปกติ เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ลิ้นกำลังบอกอะไรกับคุณหรือไม่ และเมื่อไรที่คุณควรไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์
1.ลิ้นมีฝ้าสีขาว
จุดสีขาวที่มีเนื้อครีมสามารถเกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากเจ็บป่วยหรือทานยา ทำให้แบคทีเรียในช่องปากเสียสมดุล นอกจากนี้การมีฝ้าสีขาวที่ลิ้นสามารถบ่งบอกได้ถึงการเป็นโรคไลเคนพลานัส (Lichen planus) แต่ถ้าเห็นว่าบางบริเวณของลิ้นมีความแข็ง แบน และเป็นสีขาว โดยไม่สามารถกำจัดออกไปได้ มันก็สามารถเป็นสัญญาณของการเกิดฝ้าขาว (Leukoplakia) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2.มีขนบนลิ้น
ถ้าลิ้นของคุณมีขนสีดำ สีน้ำตาล หรือสีขาว นั่นหมายความว่า มีโปรตีนมาปกคลุมเนื้อเยื่อที่มีหน้าที่รับรสผิดปกติ และมันควรจะหายไปเมื่อคุณแปรงหรือขูดลิ้น แต่หากลิ้นมีขนและเป็นปื้นสีขาวที่คุณไม่สามารถกำจัดออกไปได้ มันอาจหมายถึงการเป็นโรคแฮรีลิวโคพลาเกีย (Hairy Leukoplakia) ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นกับคนที่ติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr) หรือ HIV
3.ลิ้นสีดำ
การมีขนที่ลิ้นไม่เพียงแต่ทำให้ลิ้นเป็นสีดำเท่านั้น แต่การทานยาลดกรดที่มีส่วนผสมของ Bismuth ก็สามารถทำให้ลิ้นเป็นสีดำเมื่อผสมกับน้ำลาย อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวไม่ทำให้เกิดอันตราย และจะหายไปเมื่อคุณหยุดทานยา
4.ลิ้นสีสตรอว์เบอร์รี
หากลิ้นของคุณมีสีแดงเหมือนกับสตรอว์เบอร์รี มันก็สามารถเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคคาวาซากิ ซึ่งเป็นโรคที่หายากและร้ายแรงที่ทำให้หลอดเลือดทั้งร่างกายเกิดการอักเสบ โดยพบได้มากในเด็ก ถ้าลิ้นของคุณเรียบ และรู้สึกเจ็บในปาก มันก็อาจเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายได้รับวิตามินบี 3 ไม่เพียงพอ
5.แสบร้อนที่ลิ้น
ถ้าคุณรู้สึกแสบร้อนที่ลิ้นเหมือนกับตอนสัมผัสกาแฟร้อน หรือรู้สึกถึงรสชาติของเหล็กหรือรสขมบนลิ้น ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะว่าคุณกำลังมีอาการปากแสบร้อน (Burning mouth) มีปัญหากับเส้นประสาทที่ลิ้น มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ปากแห้ง ติดเชื้อ กรดไหลย้อน และโรคเบาหวาน นอกจากนี้บางคนยังพบด้วยว่า สับปะรด ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ลูกอม หรือหมากฝรั่ง ก็สามารถทำให้ปากมีอาการแสบร้อนเช่นกัน
6.ลิ้นเรียบ
การที่ลิ้นของคุณไม่มีปุ่มเล็กๆ ด้านบนนั้นอาจเป็นเพราะว่าคุณได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ ตัวอย่างเช่น เหล็ก กรดโฟลิค หรือวิตามินบี นอกจากนี้การติดเชื้อ การเป็นโรคแพ้กลูเตน หรือการทานยา ก็สามารถทำให้ลิ้นมีสภาพดังกล่าวเช่นกัน
7.มีตุ่มขึ้น
ใต้ลิ้นถือเป็นบริเวณที่มักเกิดแผลร้อนใน ซึ่งเป็นตุ่มสีแดงที่มีขนาดเล็กและทำให้เรารู้สึกเจ็บ ทั้งนี้ตุ่มดังกล่าวจะเกิดขึ้นและหายไปเอง แต่หากมีตุ่มเม็ดเดียวขึ้นที่ปลายลิ้น มันก็อาจเกิดจากต่อมรับรสของลิ้นบวมขึ้น (Transient lingual papillitis) ซึ่งสามารถเกิดขึ้นเมื่อลิ้นระคายเคือง อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อไวรัสสามารถทำให้เกิดตุ่มเล็กๆ บนปลายลิ้นและด้านข้างของลิ้น ถ้าคุณมีปุ่มบน หรือใต้ลิ้นที่ทำให้เจ็บและไม่ยอมหายไปเอง คุณก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ
8.เจ็บปวด
ลิ้นมีเส้นประสาทเป็นจำนวนมาก ดังนั้นคุณจึงรู้สึกเจ็บเมื่อกัดลิ้น หรือเมื่อลิ้นได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม การมีแผลร้อนใน การเป็นโรคไลเคนพลานัส โรคเชื้อราในช่องปาก และการเป็นโรคลิ้นแผนที่สามารถทำให้คุณรู้สึกปวด การทานยาบางชนิด และการติดเชื้อล้วนแต่ทำให้คุณเจ็บลิ้น อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเจ็บที่ลิ้นสามารถเป็นสัญญาณของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะถ้าคุณมีตุ่มหรือฝ้าสีขาวหรือสีแดงบนลิ้น ทางที่ดีคุณควรไปพบแพทย์ค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณจะเห็นได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงของลิ้นสามารถบ่งบอกได้ถึงปัญหาสุขภาพ ดังนั้นหากคุณสังเกตว่าลิ้นมีลักษณะผิดปกติ คุณก็อย่าชะล่าใจ และรีบไปพบแพทย์ค่ะ