ยากดประสาท คือยาที่ยับยั้งการทำงานของระบบประสานส่วนกลาง (Central nervous system; CNS) และเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งยาเหล่านี้จะไปส่งผลกับนิวตรอนในระบบประสาทส่วนกลาง จะทำให้เกิดอาการจำพวก ง่วงซึม ผ่อนคลาย ลดการต่อต้าน ระงับความรู้สึก นอนหลับ อาการโคม่า หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต และยากดประสาทส่วนใหญ่นั้นสามารถทำให้เกิดการติดยาขึ้นได้
โดยในขณะที่ยากดประสาทส่วนกลางเหล่านี้ต่างมีความสามารถในการช่วยลดกิจกรรมในระบบประสาทส่วนกลาง และช่วยลดระดับความรู้สึกตัวในสมอง แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสารที่อยู่ในกลุ่มยานี้ด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ยาบางตัวปลอดภัยกว่าตัวอื่น และมักเลือกใช้ในการเชิงแพทย์โดยทั่วไป
ประเภทของยากดประสาท
ยาที่จัดอยู่ในกลุ่มยากดประสาท ได้แก่
- เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol)
- บาร์บิทูเรท (Barbiturates)
- เบนโซไดอาซิพีน (Benzodiazepines)
เอทิลแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ หรือเอทิลแอลกอฮอล์ เป็นยาที่สามารถออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากคาเฟอีนที่เป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าแอลกอฮอล์นั้นจะถูกกฎหมาย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงสูงต่อการมีจะนำไปใช้ในทางที่ผิด เพราะจากการสำรวจในปี 2014 โดยสำนักงานบริการทางสุขภาพจิตและการใช้สารเสพติด (Substance Abuse and Mental Helth Services Administration) เผยว่ามีประชากรเกือบ 61 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ถูกรายงานว่าเป็นว่าเป็นพวกดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาดในเวลาสั้นๆ และอีก 16 ล้านคน ถูกรายงานว่าเป็นพวกดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก
การใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ถูกและผิดต่างก็มีต้นทุนทางสังคมสูง
จากข้อมูลของทางสมาคมจิตเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกา (American Psychiatric Association) พบว่าประมาณร้อยละ 50 เปอร์เซ็นต์ ของการจู่โจม การฆาตกรรม และการเสียชีวิตบนท้องถนนต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ทั้งนั้น
บาร์บิทูเรท
บาร์บิทูเรท หรือคนส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า ยาถอน เป็นยากดประสาทส่วนกลางทำให้เกิดภาวะเคลิ้มสุข (Euphoria) และมีความรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างต่ำ โดยในช่วงแรกของยุค 90 บาร์บิทูเรทถูกมองว่าเป็นยากดประสาทที่มีความปลอดภัย แต่กลับเจอปัญหาในเรื่องการติดยาและการใช้ยาเกินขนาดเริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้น เพราะบาร์บิทูเรทจะมีผลกระทบอย่างมากกับรูปแบบการนอนหลับ ผลลัพธ์คือตัวยาจะไปกดการนอนช่วง REM และเนื่องจากมีความเสี่ยงในการติดยาและการใช้ยาเกินขนาดเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันบาร์บิทูเรทไม่นิยมกันทั่วไปแล้ว แต่จะใช้สำหรับการรักษาอาการวิตก กังวลและจะใช้ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ
เบนโซไดอาซิพีน
เบนโซไดอาซิพีน เป็นยากดประสาทส่วนกลางที่ใช้กันอย่างแพร่เช่นเดียวกันโดยจะใช้กันเพื่อรักษาอาการวิตกกังวลและความผิดปกติทางด้านการนอนหลับ ในปี 1999 มียา 4 ตัวในกลุ่นเบนโซไดอาซิพีนที่ถูกจัดอันดับให้เป็นยาที่สั่งมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา (Latner,2000) ด้วยพิษที่มีค่อนข้างต่ำและมีประสิทธิภาพของตัวยาที่สูง ความเสี่ยงในการติดยาก็ยังทำให้ไม่เป็นที่นิยมในการใช้ยาดังกล่าวในโรคกังวลทั่วไป(generalized anxiety disorder) โรคเครียด PTSD (Post-traumatic Stress disorders) และโรคตื่นตระหนก (Panic disorders) ที่ต้องใช้ยารักษาเป็นเวลานาน (Julien, 2001)
เบนโซไดอาซิพีนมีประสิทธิภาพในการช่วยให้นอนหลับ ทำให้ง่วงซึม คลายกล้ามเนื้อ และยังช่วยเป็นยากันชักอีกด้วย ซึ่งประสิทธิภาพของยาเหล่านี้เองที่เบนโซไดอาซิพีนจึงถูกใช้รักษาอาการต่างๆ ได้แก่ นอนไม่หลับ วิตกกังวล ลุกลี้ลุกลน กล้ามเนื้อกระตุก และชัก ซึ่งเบนโซไดอาซิพีนมักถูกมองว่าปลอดภัยในการใช้ระยะสั้น แต่ในการใช้ระยะยาวอาจก่อให้เกิดการทนต่อยา การติดยา และกลุ่มอาการที่เกิดจากการขาดยาหากหยุดใช้
การใช้ยากดประสาท
ยากดประสาทมักใช้บรรเทาอาการที่เกี่ยวกับความผิดปกติหลายอย่าง ได้แก่
- อาการวิตกกังวล ในโรคกลัวที่สาธารณะ โรคตื่นตระหนก และโรคกังวลทั่วไป
- โรคย้ำคิดย้ำทำ
- โรคซึมเศร้า
- อาการนอนไม่หลับ
- อาการชัก
ยากดประสาททำงานออกฤทธิ์อย่างไร?
ยากดประสาทส่วนกลางส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของสารสื่อประสาท Gamma-Aminobutyric acid(GABA) ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณระหว่างเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่ง ซึ่งการทำงานที่เพิ่มขึ้นของสารสื่อประสาท (GABA) จะช่วยทำให้การทำงานของสมองลดลง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมการใช้ยากดประสาทจึงสามารถทำให้รู้สึกง่วงซึมได้