กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้นๆ ในคลินิกกายภาพบำบัดบัด โดยสาเหตุของการเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงมีหลากหลายมาก เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการทำงานไม่สมดุลกันของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากโรคหลอดเลือดสมอง
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงสามารถพบได้ในกลุ่มคนทั่วไป ไปจนถึงกลุ่มนักกีฬาที่มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์ โดยอาจมีอาการเริ่มต้นเป็นอาการปวด หรือชา ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ จนหลังจากนั้นจึงถูกวินิจฉัยว่า เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความหมายของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscle weakness) คือ ภาวะที่กำลังของกล้ามเนื้อลดลง ทำให้ความสามารถในการทำงานของกล้ามเนื้อลดลง อาจเป็นเพียงอ่อนแรงลงเล็กน้อย หรือรุนแรงถึงขั้นไม่สามารถขยับได้เลย
สาเหตุของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
กล้ามเนื้ออ่อนแรงสามารถแบ่งได้ด้วยหลายเกณฑ์ ในที่นี้จะขอแบ่งตามพยาธิสภาพแบบกว้างๆ ให้เข้าใจง่ายเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบประสาท (General weakness or disuse atrophy)
อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในกลุ่มนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เพราะเมื่อคุณอายุมากขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายในการทำกิจกรรมต่างๆ ก็น้อยลง ทำให้มวลของกล้ามเนื้อลดลง ส่งผลให้กำลังของกล้ามเนื้อลดลงด้วย (Disuse atrophy)
นอกจากนี้ โรคกลุ่มนี้ยังเกิดได้จากการทำงานไม่สมดุลกันของกล้ามเนื้อ เช่น ในผู้ที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ อยู่ในท่าห่อไหล่ และยื่นคอตลอดเวลา กล้ามเนื้อบางส่วนจึงหดรั้ง (Shortening) หรือยืดยาวออก (Lenghtening)
ซึ่งทั้งการหดรั้ง และยืดยาวออกอย่างไม่สมดุลนั้นสามารถนำมาซึ่งการอ่อนแรงได้ และการอ่อนแรงในลักษณะนี้ยังพบได้บ่อยในกลุ่มของผู้ที่ออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างไม่สมดุลด้วย
โดยถึงแม้จะมีรูปร่างกำยำ มีกล้ามเนื้อเห็นชัด แต่กล้ามเนื้อในส่วนลึกๆ หรือกล้ามเนื้อที่ไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมจะถูกกล้ามเนื้อที่ได้รับการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องดึงรั้งจนเสียสมดุล และกลายเป็นกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงลงในที่สุด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ซึ่งบ่อยครั้ง กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงสามารถพัฒนาไปเป็นปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น มีอาการปวดเรื้อรังเป็นๆ หายๆ นอกจากนี้ ในผู้ป่วยที่นอนติดเตียง กล้ามเนื้อก็จะค่อยๆอ่อนแรง และฝ่อลีบลงจนข้อต่อติดแข็งผิดรูป จนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไปเช่นกัน
2. กล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบประสาท (Neurological conditions related weakness)
กล้ามเนื้ออ่อนแรงในกลุ่มนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การกดทับของเส้นประสาท (Nerve root compression) การกดทับไขสันหลัง (Myelopathy) การกดทับเส้นประสาทส่วนปลาย (Pheripheral nerve compression)
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือผู้ประสบอุบัติเหตุที่เนื้อสมองเสียหายจากการขาดเลือด หรือมีเลือดออก และกดทับเนื้อสมอง ก็อาจจะพบอาการอ่อนแรงของร่างกายซีกใดซีกหนึ่งหรือทั้ง 2 ซีก หรืออ่อนแรงจนไม่สามารถขยับได้เลย (Hemiplegia)
และผู้ป่วยที่ประสบอุบัติที่กระดูกสันหลัง ก็อาจจะพบว่า กล้ามเนื้อของร่างกายท่อนร่างหลังจากส่วนที่ได้รับอุบัติเหตุลงไปนั้นอ่อนแรงลง หรือไม่สามารถขยับได้อีกเลยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มนี้ผู้ป่วยมักมีอาการผิดปกติของระบบประสาทร่วมด้วย เช่น อาการชา การรับความรู้สึกที่ผิวหนังผิดปกติ รู้สึกเหมือนโดนเข็มแทงตลอดเวลา เป็นต้น
3. กล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากโรคอื่นๆ (Specific disease related weakness)
มีโรคหลายชนิดที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (Amyotrophic Lateral Sclerosis) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอ็มจี (Myasthenia Gravis)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคในกลุ่มนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง การติดเชื้อ หรือบางชนิดยังไม่ทราบสาเหตุ
อย่างไรก็ตาม โรคเหล่านี้มักจะมีอาการเฉพาะที่เห็นได้ชัด ร่วมกับมีรูปแบบการอ่อนแรงแบบพิเศษ เช่น มีหนังตาตกร่วมด้วย มีอาการกระตุก เริ่มจากแขนขาข้างใดข้างหนึ่ง ก่อนจะเป็นทั้งสองข้าง หรือเริ่มจากส่วนต้นของแขนหรือขาก่อนจะค่อยๆ ลุกลามไปยังส่วนปลายรยางค์
ระดับความรุนแรงของกล้ามเนื้ออ่อนแรง
การวัดความรุนแรงของภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เป็นที่นิยม คือ การทดสอบกำลังกล้ามเนื้อด้วยมือ (Manual muscle testing)
โดยการตรวจกล้ามเนื้อแต่ละมัดจะมีท่าทางเฉพาะที่ใช้ในการตรวจ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อต้นแขน ต้นขา หรือกล้ามเนื้อที่เล็กมากๆ อย่างกล้ามเนื้อใบหน้า เกือบทั้งหมดแทบจะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ อาศัยเพียงแรงของผู้ตรวจเท่านั้น
การอ่อนแรงสามารถแบ่งได้หลายระดับ แล้วแต่แหล่งอ้างอิงที่ใช้ ในที่นี้จะของแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ด้วยคะแนนตั้งแต่ 0-5 ดังนี้
5 คะแนน |
สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มช่วงการเคลื่อนไหว ในท่าที่ต้านแรงโน้มถ่วงของโลกและแรงต้านจากผู้ทดสอบอย่างเต็มที่ |
4 คะแนน |
สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มช่วงการเคลื่อนไหว ในท่าที่ต้านแรงโน้มถ่วงของโลกและแรงต้านจากผู้ทดสอบบางส่วน |
3 คะแนน |
สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มช่วงการเคลื่อนไหว ในท่าที่ต้านแรงโน้มถ่วงของโลก |
2 คะแนน |
สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มช่วงการเคลื่อนไหว ในท่าที่ไม่ต้านแรงโน้มถ่วงของโลก |
1 คะแนน |
สังเกตเห็นการหดตัวของกล้ามเนื้อ (Muscle contraction) แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวของข้อต่อ |
0 คะแนน |
ไม่สามารถหัดเกตเห็นการหดตัวของกล้ามเนื้อได้เลย |
ในบางตำราอาจจะแบ่งระดับการอ่อนแรงหยาบกว่านี้ หรือบางตำราอาจจะแบ่งละเอียดขึ้นด้วยการให้เครื่องหมาย +/- ในแต่ละระดับคะแนนด้วย
ทั้งนี้ในระดับคะแนนที่เท่ากัน กำลังของกล้ามเนื้ออาจจะแตกต่างกัน ขึ้นกับดุลพินิจของผู้ตรวจ
เพราะการตรวจด้วยวิธีนี้ใช้ประเมินกำลังของกล้ามเนื้อ เทียบกับอายุ และสภาพร่างกายของผู้ถูกประเมินด้วย เช่น ผู้ป่วยอายุ 80 ปีที่ได้ 5 คะแนน กำลังของกล้ามเนื้ออาจจะน้อยกว่าผู้ป่วยอายุ 30 ปีที่ได้ 5 คะแนนเท่ากัน
วิธีการรักษาภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงทางกายภาพบำบัด
ดังที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นแล้วว่า กล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จึงมีการรักษาหลากหลายให้เหมาะกับสาเหตุ และความรุนแรงโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม การรักษาภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงมักเรียกกันโดยรวมว่า การออกกำลังการเพื่อการรักษา (Therapeutic exercise) ซึ่งมีหลายวิธี เช่น
- สำหรับอาการอ่อนแรงที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุ และผู้มีการทำงานของกล้ามเนื้อไม่สมดุล สามารถรักษาได้ด้วยการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงลง
- สำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือผู้ป่วยที่สมองได้รับบาดเจ็บ จะใช้การออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูการทำงานของสมอง (Motor relearning program) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่เป็นอัมพาต และไม่สามารถขยับร่างกายได้บางราย สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
สำหรับผู้ป่วยในกลุ่มโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแบบต่างๆ รวมถึงผู้ป่วยที่ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ และการพยากรณ์โรคเป็นไปในทิศทางแย่ลงเรื่อยๆ พึงทราบว่า
การกายภาพบำบัดยังมีส่วนสำคัญอย่างมากในการชะลอความพิการที่จะเกิดขึ้น และการฝึกฝนกล้ามเนื้ออื่นๆ เพื่อทำหน้าที่แทนกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงลงก็สามารถทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้อย่างเต็มความสามารถที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
การป้องกันภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
การป้องกันภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง สามารถทำได้ตามสาเหตุของกล้ามเนื้ออ่อนแรงแบบต่างๆ ดังนี้
- การป้องกันภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่มีสาเหตุมาจากระบบประสาท และโรคต่างๆ สามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงให้มากที่สุด
- การป้องกันกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากการไม่ได้ใช้งานในผู้สูงอายุ สามารถป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความทนทานแก่กล้ามเนื้อ แต่ต้องทำอย่างเหมาะกับอายุ และโรคประจำตัว
- การป้องกันกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการมีท่าทางไม่เหมาะสมจนทำให้กล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุลนั้น สามารถป้องกันได้ด้วยการออกกำลังเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ร่วมกับการปรับเปลี่ยนท่าทางและสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม
กล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้ในทุกคน ทุกช่วงอายุ ในบางกรณีอาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรง
เมื่อสังเกตพบว่า กล้ามเนื้อมีการอ่อนแรงลง เช่น หยิบจับของแล้วหล่น ลุกขึ้นยืนลำบาก ควรรีบเข้ารับการตรวจประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก่อนที่อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงจะยิ่งรุนแรงขึ้น จนอาจถึงขั้นพิการได้
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจทำกายภาบำบัดและนวดเพื่อรักษา จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
ทำไม่ ต้องอ้วนลงพุ่งค่ะ