ยังไม่มีการทดสอบใดที่จะสรุปได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน แพทย์จะให้การวินิจฉัยโรคพาร์กินสันจากอาการที่คุณเป็น ประวัติทางการแพทย์ และข้อมูลที่ได้จากการตรวจร่างกายเป็นหลัก
แพทย์จะสอบถามคุณเกี่ยวกับอาการที่คุณเป็น และอาจขอให้คุณทำกิจกรรมทางกายหรือทางจิตใจบางอย่างเพื่อช่วยในการวินิจฉัย เช่น การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือการเดินไปรอบๆ ห้อง เป็นต้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ในช่วงระยะแรกของการเป็นโรคพาร์กินสัน เป็นเรื่องยากที่แพทย์จะบอกได้อย่างชัดเจนว่าคุณกำลังเป็นโรคนี้ เพราะอาการในช่วงแรกมักอยู่ในระดับรุนแรงน้อย
การส่งต่อไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาเบื้องต้นให้กับคุณสงสัยว่าคุณอาจเป็นโรคพาร์กินสัน คุณจะได้รับการส่งต่อไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน 2 สาขานี้:
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาประสาทวิทยา (neurologist)- คือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางสมองและระบบประสาท
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ (geriatrician)-คือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคของผู้สูงอายุ
หากแพทย์ที่ตรวจโรคให้กับคุณเบื้องต้นคิดว่าคุณอาจอยู่ในระยะแรกของโรคพาร์กินสัน คุณควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ หากแพทย์คิดว่าคุณเป็นโรคพาร์กินสันในระยะท้ายแล้ว คุณควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะขอให้คุณทำการเคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะต่างๆ ซึ่งคุณจะได้รับการประเมินถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อนไหว
หากคุณมีอาการอย่างน้อย 2 ใน 3 อาการด้านล่างนี้ หมายความว่าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคพาร์กินสัน
- อาการสั่นของร่างกายซึ่งพบเฉพาะขณะพัก (อาการสั่นขณะพัก)
- เคลื่อนไหวร่างกายช้า (bradykinesia)
- กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง (rigidity)
หากอาการต่างๆ เหล่านี้ดีขึ้นภายหลังการได้รับยาลีโวโดป้า (levodopa) นั่นหมายความว่าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคพาร์กินสันสูงขึ้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การตรวจสแกนสมองด้วยเทคนิคพิเศษ เช่น single photon emission computed tomography (SPECT) scan อาจมีการทำในผู้ป่วยบางรายเพื่อแยกโรคอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของอาการออก
เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสัน
เมื่อคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสันอาจทำให้คุณมีความวิตกกังวล มีความทุกข์ใจ และรู้สึกเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับมัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณควรได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว และการดูแลจากทีมแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยคุณในเรื่องดังกล่าวได้