มีความเชื่อและความเข้าใจผิด ๆ เรื่องแฝดมากมาย มาดูบางส่วนที่แพร่หลายมากที่สุดว่าจากมุมมองของพ่อแม่แล้ว มันเป็นความจริงแค่ไหนกัน
ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับแฝด
1. มันยากขึ้นเป็นสองเท่า (หรือสาม สี่ ห้า ...) ที่จะเลี้ยงลูกแฝด
ไม่จำเป็นเสมอไป เช่นเดียวกับความรัก ความพยายามในการดูแลลูก ๆ ไม่สามารถวัดเป็นปริมาณได้ พ่อแม่ทุกคนต้องเคยรู้สึกถึงความยากลำบากและความท้าทายจากลูกอยู่แล้ว ในอีกแง่หนึ่ง การมีลูกแฝดนั้น จริง ๆ แล้วง่ายกว่าการมีลูกอายุต่าง ๆ กันหลาย ๆ คนด้วยซ้ำ แฝดจะเป็นเพื่อนกัน และช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ในการเป็นเพื่อนเล่นและทำให้แต่ละฝ่ายเพลิดเพลิน
2. คนหนึ่งเป็นคนดี และอีกคนจะเป็นตัวร้าย
ไม่มีเด็กคนไหนที่จะดีหรือแย่ไปเสียทั้งหมด แน่นอนว่าจะมีช่วงเวลาที่แฝดคนหนึ่งจะพยายามเรียกร้องความสนใจโดยทำตัวเป็นเทวดาตัวน้อย ในขณะที่อีกคนทำตัวแย่ แต่แค่ชั่วขณะที่คุณหันหลังให้ พวกเขาก็พร้อมจะสลับบทกันทันที และบ่อยครั้งที่แฝดทำตัวเป็นคู่หูตัวแสบสร้างความหายนะอีกด้วย ทีนี้ใครที่เป็นตัวร้ายกันล่ะ
3. แฝดจะคลอดด้วยวิธีการผ่าคลอด (Cesarean section) เสมอ
แม้จะมีความเสี่ยงจากการคลอดแฝดโดยธรรมชาติที่ทำให้การผ่าคลอดเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า แต่ไม่ใช่ว่าแฝดทุกคนเกิดโดยการผ่าคลอด สูติแพทย์บางคนยังมีอัตราการผ่าคลอดในท้องแฝดน้อยกว่าในท้องปกติด้วยซ้ำ โอกาสที่จะทำการผ่าคลอดเพิ่มขึ้นตามจำนวนทารก โดยเฉพาะหากมีจำนวนมากเช่นเป็นแฝดสี่หรือแฝดห้า ก็มักจะต้องผ่าคลอดเสมอ แต่แพทย์หลายคนก็พยายามที่จะให้คลอดด้วยวิธีธรรมชาติหากอยู่ในภาวะที่เหมาะสมต่อทารกทั้งคู่
4. แฝดควรจะถูกแยกจากกันที่โรงเรียน
แม้ว่าระบบโรงเรียนอาจจะพูดอีกอย่าง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าแฝดจะเรียนได้ดีกว่าหากแยกห้องเรียนกัน หรือพวกเขาจะเรียนแย่ทั้งคู่หากอยู่ด้วยกัน จริง ๆ แล้ว การศึกษาเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าการแยกกันอาจทำให้เกิดผลเสียทางการเรียน ทั้งนี้แฝดแต่ละคู่ก็ต่างกัน และควรคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างในการอยู่ที่โรงเรียน รวมถึงความสัมพันธ์ของเด็กและรูปแบบการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนด้วย
5. ครอบครัวที่มีแฝดมักจะได้ของฟรี และความช่วยเหลือต่าง ๆ
ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป แม้ว่าที่จริงแล้วเราจะอยากได้ก็ตาม ถึงแม้ว่าบางบริษัทจะลดราคาหรือให้ของขวัญฟรีแก่ครอบครัวที่มีแฝด แต่ของที่ได้มากก็จะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ของที่ได้จากช่วยเหลือมักจะเป็นของที่เหมาะกับวัยทารก ซึ่งเมื่อแฝดโตขึ้น พ่อแม่จะรู้สึกว่าความช่วยเหลือทางด้านการเงินจะแทบไม่มี ในบางครั้ง โรงเรียนหรือกิจกรรมจะลดราคาให้ 10-20% สำหรับลูกคนที่สอง แต่เมื่อมีแฝดมากขึ้น พวกเขาก็ถูกยกเว้นจากเงื่อนไขที่ว่านี้
6. พวกเขามักจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน
แม้ว่าความผูกพันระหว่างแฝดจะเป็นสิ่งที่พิเศษเฉพาะตัว แต่ก็ไม่ใช่ว่าแฝดจะเป็นคู่หูพิเศษของกันและกันเสมอ พวกเขายังสนุกสนานกับการคบเพื่อน และมีความสัมพันธ์กับเด็กคนอื่น ๆ เช่นเดียวกับเด็กทั่วไป
7. พวกเขามักจะแข่งขันกันเสมอ
แฝดมักจะกลายเป็นประเด็นในเรื่องความเป็นศัตรูกันระหว่างพี่น้องเช่นเดียวกับเด็กปกติ ซึ่งแม้บางคู่อาจจะมีเรื่องการเปรียบเทียบและการแข่งขัน แต่ส่วนใหญ่จะไม่ เนื่องจากแฝดจะสร้างความเป็นอัตลักษณ์ของพวกเขาเอง พวกเขาจึงไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้ต้องแตกต่างจากคู่แฝดของเขา
8. แฝดพี่จะเป็นผู้นำ และแฝดน้องจะเป็นผู้ตาม
ความสำคัญเรื่องลำดับการเกิดมักใช้ไม่ได้กับฝาแฝด เนื่องจากช่วงเวลาไม่กี่นาที (หรือไม่กี่วินาที) จะไม่มากพอที่จะมีผลต่อบุคลิกของแต่ละคน หากแฝดพี่จะมีลักษณะเป็นผู้นำ ก็มักจะเป็นจากสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่จะเป็นจากลำดับการเกิด
9. แฝดจะมีพลังจิตระหว่างกัน
เรื่องที่ว่าแฝดจะสื่อสารกันทางจิตได้เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ แต่ในทางวิทยาศาสตร์กล่าวไว้อีกอย่างหนึ่งเลยทีเดียว จริงอยู่ว่ามีรายงานเกี่ยวกับแฝดที่รับรู้ความเจ็บปวดของอีกฝ่าย ต่อประโยคที่ค้างไว้ของอีกฝ่ายจนจบได้ และระบุความคิดของอีกฝ่ายได้ แต่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ใครก็ตามสองคน เช่น สามีภรรยา พี่น้องที่ใกล้ชิดกันมาก หรือเพื่อนสนิท ผู้ที่มีความคล้ายคลึงกันทางพันธุกรรม มีประสบการณ์ร่วมกัน และมีความผูกพันใกล้ชิดกัน ก็สามารถแสดงลักษณะดังกล่าวได้เช่นกัน
10. พวกเขาดูเหมือนกันมากจนแยกกันไม่ออก
แฝดบางคู่ก็ดูเหมือนกันมากจริง ๆ แต่บางคู่ก็ไม่ แต่แม้แต่แฝดแท้ที่มีลักษณะภายนอกเหมือนกันแทบทุกอย่างก็ยังมีความแตกต่างกันที่พอจะสังเกตได้บ้าง เมื่อคุณรู้จักแฝดในฐานะของคนแต่ละคน คุณจะสามารถแยกพวกเขาจากกันได้ พ่อแม่จะสามารถบอกได้ว่าแฝดคนไหนเป็นใคร และจะไม่ลืมด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าพ่อแม่จะไม่เคยถูกพวกแฝดหลอกเอาเลย โดยเฉพาะเมื่อพ่อแม่กำลังอดนอนอยู่