อาการคันบริเวณในร่มผ้า หรือจุดซ่อนเร้นของทั้งเพศชาย และหญิงเป็นสิ่งที่พบได้บ่อย ในบางคนอาจมีอาการได้หลายครั้งไปตลอดช่วงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องคลอดของเพศหญิง โดยปกติจะมีเชื้อรา และแบคทีเรียที่สมดุลกันอยู่ร่วมกันได้อย่างดี ทำให้เชื้อราสงบ ไม่เจริญเติบโต
อย่างไรก็ตาม แต่ถ้าหากมีสิ่งแปลกปลอมไปทำให้ความสมดุลของเชื้อรากับเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดเปลี่ยนแปลงไป เช่น ทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดน้อยลง ก็จะมีผลให้เชื้อราในช่องคลอดเจริญมากขึ้น เป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อราในร่มผ้า ซึ่งทำให้เกิดอาการคันในร่มผ้าตามมาได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราช่องคลอดที่พบบ่อยที่สุด คือ การติดเชื้อราชนิดแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida Albicans)
สาเหตุของการเกิดเชื้อราในร่มผ้า
อาการผิดปกติที่เกิดกับอวัยวะเพศนั้นมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุของอาการคันได้ทั้งสิ้น เช่น โรคผิวหนังอักเสบ หรือแพ้สารประกอบในครีมอาบน้ำก็เป็นสาเหตุของอาการแพ้ผื่นคันได้เช่นกัน
ส่วนสาเหตุของการเกิดเชื้อราในร่มผ้า มีดังต่อไปนี้
- ดูแลความสะอาดได้ไม่ดีพอ ทำให้บริเวณอวัยวะเพศไม่สะอาด และอับชื้น เช่น ไม่อาบน้ำหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายอย่างหนักซึ่งมีเหงื่อออกมาก หรือหลังอาบน้ำไม่เช็ดตัวให้แห้งก่อนสวมเสื้อผ้า
นอกจากนี้ การสวมใส่กางเกงที่รัดแน่น อับชื้น รวมถึงใส่ผ้าอนามัยผืนเดิมนานๆ ก็เป็นเป็นสาเหตุให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดีเช่นกัน - การใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดถูกทำลาย เชื้อราก่อโรคอื่นๆ จึงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
- สวนล้างช่องคลอดด้วยสบู่ หรือน้ำยาที่รุนแรง ทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล และถูกกำจัดออกไป เชื้อโรคอื่นๆ ได้แก่พวกเชื้อราจึงฉวยโอกาสมารุกรานได้ง่ายขึ้น
- ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง เช่น อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคลูปัส โรคเอดส์
- ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์จากคู่นอน ซึ่งเป็นกามโรคอย่างหนึ่ง
อาการของเชื้อราในร่มผ้าทั้งของผู้ชายและผู้หญิง
เชื้อราในร่มผ้าเกิดได้ทั้งในผู้ชาย และผู้หญิง โดยมักมีอาการดังต่อไปนี้
- คันบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างมาก ในเพศหญิงจะคันที่ปากช่องคลอด ผู้ชายจะรู้สึกคันที่ปลายอวัยวะเพศ หนังปลายอวัยวะเพศเป็นปื้นสีแดง รวมถึงอาจมีผื่นบวมแดง มีอาการแสบร้อน และระคายเคืองมาก่อน
- เวลาปัสสาวะ หรือมีเพศสัมพันธ์ จะรู้สึกแสบขัด หรืออาจมีอาการเจ็บ
- ในเพศหญิงจะมีตกขาวสีขาวขุ่น จับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก มีกลิ่นเปรี้ยวเหมือนนมบูด ซึ่งบ่งบอกว่า มีการติดเชื้อราในช่องคลอด ส่วนเพศชายจะมีของเสียคล้ายหนองไหลออกมาจากหนังหุ้มปลาย และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เช่นกัน
นอกจากนี้ หากผู้ป่วยเชื้อราในร่มผ้ามีอาการอื่นๆ ร่วมกับอาการที่กล่าวไปข้างต้น ได้แก่ เป็นไข้สูง (อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป) ปวดท้องน้อย ปวดหลัง คลื่นไส้ มีเลือดออกจากช่องคลอด และ/หรือมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ก็ควรปรึกษาแพทย์
วิธีการรักษาเชื้อราในร่มผ้าให้หายขาด
การรักษาเชื้อราในร่มผ้าให้หายขาดสามารถทำได้ แต่จะต้องมีการหาสาเหตุของการเกิดเชื้อราให้รู้ชัดเจน ถี่ถ้วน และหากสาเหตุนั้นเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของคุณเอง ก็ควรละ หรือเลี่ยงพฤติกรรมนั้นๆ เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. สังเกตตนเอง
ให้คุณสังเกต หรือลองทบทวนเกี่ยวกับวิถีชีวิตประจำวันของตนเองว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในร่มผ้าของตนเอง หรือพฤติกรรมใดที่เสี่ยงทำให้เกิดอาการนี้ แล้วหาวิธีหลีกเลี่ยง เช่น ภาวะอับชื้น การหมักหมม หรือชอบใส่เสื้อผ้าซ้ำ เหงื่อไคลออกมากระหว่างเล่นกีฬา
เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ก็ให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รักษาความสะอาดร่างกายให้มากขึ้น เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ให้เช็ดตัว และอวัยวะเพศให้แห้ง ในผู้หญิงหากเป็นประจำเดือนก็ให้หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ อย่าปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้นทั้งเพศชาย และเพศหญิง
2. ใช้ยาฆ่าเชื้อ
คุณควรให้แพทย์เป็นผู้แนะนำการเลือกใช้ยาฆ่าเชื้อรา เนื่องจากยาแต่ละชนิดจะมีการออกฤทธิ์ และแต่ละบริเวณของร่างกายมีระยะเวลาในการรักษาตนเองที่แตกต่างกัน การใช้ยาที่ไม่นาน หรือไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควรอาจทำให้การรักษาไม่ได้ผล รวมทั้งมีการดื้อยาด้วย
3. หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะระคายเคืองผิวหนัง
ผิวหนังที่มีอาการภูมิแพ้เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย อีกทั้งผิวหนังจะอ่อนแอมากกว่าคนทั่วไป จึงจำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากง่ายต่อการติดเชื้อต่างๆ ทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา
นอกจากนี้ ผิวหนังที่เป็นโรคภูมิแพ้ยังมีลักษณะเฉพาะตัว ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนังจึงจำเป็นต้องพยายามหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่จะทำให้ระคายเคืองผิวหนังบริเวณนั้น
ข้อแนะนำในการใช้ยารักษาเชื้อราในร่มผ้า
ผู้ที่ต้องการรักษาเชื้อราในร่มผ้าโดยการใช้ยา ควรทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. รักษาโดยใช้ยาทาผิวหนังฆ่าเชื้อราในรูปแบบครีม
เป็นยาซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการรักษาเชื้อราในร่มผ้า เนื่องจากมีส่วนประกอบที่เป็นไขมันน้อย แต่มีปริมาณน้ำมาก จึงเหมาะสมสำหรับใช้กับผิวชุ่มชื้นในจุดซ่อนเร้น และผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เนื่องจากดูดซึมง่าย และไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ใช้ได้ทั้งในเพศชาย และหญิง
2. การรักษาโดยใช้ยารักษาเชื้อราในร่มผ้า
ซึ่งตัวยาจะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อราโดยตรง ทำให้นิยมใช้รักษาเชื้อราอย่างแพร่หลายได้เช่นกัน และได้ผลการรักษาที่ดีด้วย ได้แก่ โคลไทรมาโซล (Clotrimazole) เป็นยาใช้ภายนอก ชนิดออกฤทธิ์ได้กว้าง (Broad-Spectrum) สามารถฆ่าเชื้อราหลายชนิด เช่น
- เดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophyte)
- ยีสต์ (Yeast)
- เชื้อไตรโคโมแนส (Trichomonas vaginalis)
นอกจากนี้ ยารักษาเชื้อราในร่มผ้ายังเป็นยาในกลุ่ม Pregnancy Category B คือ ใช้ในสตรีมีครรภ์ได้อย่างปลอดภัย (จากการศึกษาในสัตว์ทดลอง ไม่พบว่า เป็นพิษทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อระบบสืบพันธุ์)
ระยะเวลาในการรักษาเชื้อราในร่มผ้า
การรักษาเชื้อราในร่มผ้าที่เกิดบนผิวหนังจะใช้เวลารักษาประมาณ 3-4 สัปดาห์ โรคเชื้อราจากเชื้อแคนดิดา (Candida spp.) ใช้เวลารักษา 1-2 สัปดาห์ โดยทั่วไปหากอาการไม่ดีขึ้นใน 7 วัน ควรปรึกษาแพทย์ อาจมีการพิจารณาใช้ยาซ้ำได้เมื่อจำเป็น
การรักษาเพิ่มเติม
ในเพศหญิง กรณีที่มีการอักเสบ คัน ระคายเคืองของอวัยวะเพศภายนอกของสตรี และบริเวณใกล้เคียง ผู้เชี่ยวชาญอาจแนะนำให้ใช้ยาโคลไทรมาโซลชนิดเม็ดสอดช่องคลอด เพื่อเป็นการรักษาการติดเชื้อภายในช่องคลอดควบคู่ไปด้วย (Combination treatment)
และในบางกรณี แพทย์ก็อาจต้องให้คู่นอนของผู้ป่วยรักษาไปพร้อมกันด้วย หากมีอาการคัน หรืออักเสบบริเวณอวัยวะเพศเช่นเดียวกัน โดยยาตัวนี้ควรใช้ในผู้ใหญ่ และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
อาการแพ้ยารักษาเชื้อราในร่มผ้า
และหากผู้ป่วยเกิดอาการแพ้ยา เช่น วูบหมดสติ ความดันเลือดต่ำ หายใจลำบาก ลมพิษ ก็ให้หยุดใช้ยาทันที และไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอให้เปลี่ยนยา
นอกจากนี้ ก่อนที่คุณจะซื้อยามารักษาอาการคันเอง ก็ควรแน่ใจก่อนว่า อาการเชื้อราเกิดจากสาเหตุใด เพราะถ้าหากใช้ครีมรักษาเชื้อราในช่องคลอดทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นโรคนี้จริงๆ จะยิ่งทำให้อาการคันรุนแรงขึ้น และลามไปสู่การแพ้สารบางชนิดที่อยู่ในยารักษาเชื้อราดังกล่าว
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิง ผู้ชายทุกวัย เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android