ไข่เป็นอาหารประจำบ้านของหลายคน เพราะนอกจากจะหาซื้อง่ายและมีราคาถูกแล้ว ไข่ยังเป็นแหล่งรวมสารอาหารและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ทั้งยังสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด
แต่เชื่อหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นโรคภูมิแพ้ไข่ ทั้งแบบภูมิแพ้อาหาร และภูมิแพ้อาหารแฝง ทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีไข่เป็นส่วนประกอบได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการแพ้ไข่เป็นอย่างไร?
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า หนึ่งในโรคภูมิแพ้อาหารในเด็กที่พบได้บ่อยที่สุดนอกจากการแพ้แป้งสาลี นมวัว ถั่วเหลือง แล้วก็คือ "การแพ้ไข่"
อาการแพ้ไข่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาทีถึงไม่กี่ชั่วโมงหลังรับประทานไข่ โดยผู้ที่แพ้จะมีอาการแตกต่างกันไป แสดงออกมาทางระบบร่างกายต่างๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบผิวหนัง หรือระบบทางเดินอาหาร
อาการแพ้อาหารที่พบบ่อย ได้แก่ ผื่นลมพิษ ตาบวม ปากบวม หรือถ่ายเป็นมูกเลือด
ในรายที่มีอาการแพ้ระดับปานกลางถึงรุนแรงอาจจะมีอาการอื่นๆ เช่น คัดจมูก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย หรือมีอาการของโรคหอบ เช่น ไอ หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก หรือหายใจสั้นร่วมด้วย
อาการดังกล่าวอาจจะแสดงอาการเพียงอย่างเดียว หรือเกิดขึ้นพร้อมกันก็ได้
ในกรณีที่พบได้น้อย การแพ้อาหารอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้เฉียบพลันรุนแรง หรือที่เรียกว่า “แอนาฟิแล็กซิส (Anaphylaxis)” ซึ่งอาจทำให้มีอาการหายใจลำบาก ปวดบีบที่ท้อง หัวใจเต้นเร็ว และช็อกเนื่องจากความดันต่ำ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการดังกล่าวส่งผลให้เวียนศีรษะ มึนงง หมดสติ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
แพ้ไข่เกิดจากอะไร?
การแพ้ไข่มีกลไกการเกิดเช่นเดียวกับโรคภูมิแพ้อื่นๆ คือ ระบบภูมิคุ้มกันเข้าใจผิดว่า สารบางอย่างในไข่นั้นเป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันปล่อยสารฮิสตามีน และสารอื่นๆ ออกมา
- สารเหล่านี้จะมีหน้าที่จัดการสารที่ร่างกายคาดว่า เป็นอันตราย จนทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ ตามมานั่นเอง
- ทั้งไข่แดง และไข่ขาว ต่างก็ประกอบไปด้วยโปรตีนที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เพียงแต่ว่า การแพ้ไข่ขาวจะพบได้มากกว่า
- นอกจากนี้ ทารกที่กินนมแม่ก็อาจมีอาการแพ้โปรตีนในไข่ที่ปะปนมาในนมแม่ได้เช่นกัน หากคุณแม่รับประทานไข่เข้าไป
- บางคนก็มีภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง (Food intolerance) จากไข่ ซึ่งจะไม่แสดงอาการในทันที แต่ค่อยๆ เกิดขึ้นจนกลายเป็นอาการเรื้อรัง อาการของภาวะนี้ไม่รุนแรง แต่ก็อาจกวนใจได้ไม่น้อย
- ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้ไข่อันเนื่องมาจากวัคซีนบางชนิดที่ทำการผลิตโดยกรรมวิธีการฉีดเชื้อเข้าไปในไข่ไก่ ซึ่งแม้ว่าวัคซีนจะผ่านกรรมวิธีต่างๆแล้ว แต่โปรตีนในไข่ยังคงหลงเหลืออยู่ วัคซีนดังกล่าว ได้แก่ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และ หัด/หัดเยอรมัน/คางทูม
- ในเบื้องต้นแพทย์จะสอบถามถึงอาการ ประวัติการแพ้อาหารของคุณ และคนในครอบครัว รวมถึงประวัติการป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ
ภาวะภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นอาจทำให้คุณมีอาการท้องเสีย ปวดท้องเมื่อรับประทานไข่ หรืออาจเป็นสิวเรื้อรังที่ใบหน้า
การวินิจฉัยอาการแพ้ไข่
หากคุณมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหลังจากรับประทานไข่ และสงสัยว่า ตนเองแพ้ไข่ คุณสามารถไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจให้แน่ใจ
นอกจากนี้ คุณจะได้รับการตรวจภูมิแพ้เพิ่มเติมด้วยวิธีต่างๆ เช่น
- การทดสอบโดยหยดสารก่อภูมิแพ้ลงบนผิวหนัง (Skin Prick Test: SPT)
- การตรวจเลือดหาปริมาณสารก่อภูมิต้านทานต่อสารก่อภูมิแพ้ (Serum Specific IgE)
- การลองรับประทานอาหารที่แพ้
โดยการตรวจภูมิแพ้จะช่วยให้ทราบแน่ชัดว่า คุณแพ้อะไรบ้าง แพ้รุนแรงแค่ไหน แพ้ไข่อย่างเดียวหรือเปล่า หรือแพ้อาหารชนิดอื่นด้วย
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หากผลตรวจภูมิแพ้ ไม่ปรากฏผลว่า แพ้ไข่ แต่เมื่อรับประทานไข่ก็ยังมีอาการแพ้อยู่ คุณอาจเข้ารับบริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงได้ หากผลตรวจออกมาว่า มีอาการภูมิแพ้อาหารแฝงจากไข่จริงจะได้หลีกเลี่ยงการรับประทาน
การป้องกันอาการแพ้ไข่กำเริบ
หากตรวจพบว่า มีอาการแพ้ไข่ คุณจะได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานไข่และอาหารที่มีไข่เป็นส่วนประกอบ ทั้งการรับประทานอาหารที่ปรุงเองและการรับประทานอาหารนอกบ้าน
วิธีการป้องกันตัวเองจากอาการแพ้ในเบื้องต้น ทำได้ดังนี้
- หากรับประทานอาหารนอกบ้านจะต้องแจ้งแม่ครัวพ่อครัวทุกครั้งว่า เป็นโรคภูมิแพ้ไข่ และกำชับให้ระมัดระวังในการใช้วัตถุดิบ หรือภาชนะปรุงอาหารไม่ให้ปนเปื้อนไข่เด็ดขาด
- อ่านฉลากอาหารให้ละเอียดทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป หรือวัตถุดิบสำหรับการปรุงอาหารก็ตาม หากพบว่า มีไข่ หรือส่วนประกอบของไข่เป็นส่วนประกอบในอาหารก็ให้หลีกเลี่ยง
- เลือกโปรตีนจากแหล่งอื่นๆ แทนการรับประทานไข่ เช่น เนื้อสัตว์ ถั่ว และธัญพืชอื่นๆ เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร
- แจ้งทางโรงเรียน ครูประจำชั้น ครูพี่เลี้ยง หรือผู้ดูแลเด็ก และผู้ปกครองของเด็กคนอื่นๆ ให้ทราบถึงอาการแพ้ของเด็ก จะได้ช่วยระมัดระวังไม่ให้เด็กเผลอรับประทาน
- คุณแม่ที่ให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไข่หากลูกของคุณมีอาการแพ้ไข่ เพราะทารกอาจมีอาการแพ้ต่อโปรตีนจากไข่ที่ผ่านไปสู่น้ำนมได้
- อย่างไรก็ตาม หากมีอาการแพ้ไข่แบบไม่รุนแรงเกิดขึ้น คุณสามารถรับประทานยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการได้
- หากมีอาการแพ้แบบเฉียบพลันรุนแรง คุณจำเป็นต้องได้รับยาฉีดอิพิเนฟรินเพื่อช่วยชีวิต และไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาเพิ่มเติมหลังจากนั้นทันที
อาการแพ้ไข่ในเด็กจะดีขึ้นไหมเมื่อโตขึ้น?
เด็กส่วนใหญ่ที่แพ้ไข่lส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นเมื่อโตขึ้น หรืออาจไม่แพ้ไข่อีกเลยก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะหายจากการแพ้ชนิดนี้
ควรเริ่มให้เด็กรับประทานไข่ที่อยู่ในรูปขนมของขนมอบก่อน จะช่วยให้เด็กสามารถทนอาหารไข่ในรูปแบบอื่นได้เร็วขึ้น ระหว่างนี้ให้ใช้แหล่งโปรตีนอื่นๆ ทดแทนไปก่อน เช่น นมแม่ หรือเนื้อสัตว์ที่เด็กไม่แพ้
หากมีอาการแพ้ไข่แบบไม่รุนแรงเกิดขึ้น คุณสามารถรับประทานยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการได้
แต่หากมีอาการแพ้แบบเฉียบพลันรุนแรง คุณจำเป็นต้องได้รับยาฉีดอิพิเนฟรินเพื่อช่วยชีวิต และไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาเพิ่มเติมหลังจากนั้นทันที
โดยแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยที่แพ้อาหารพกยาฉีดอิพิเนฟรินแบบพกพาติดตัวไว้เสมอ สำหรับกรณีแพ้ฉุกเฉิน
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ และภาวะแพ้ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android