หากใครกำลังประสบปัญหาเวลาถ่ายรูปแล้วหน้ากลม คางสั้น หน้าไม่เรียว ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการถ่ายรูป หรือมีปัญหาใบหน้าไม่สมส่วน ตลอดจนคางเล็ก คางตัด คางบุ๋ม หรือคางยื่น การเสริมคาง เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูเรียว ยาว และเล็กลงได้
เสริมคางคืออะไร?
การเสริมคาง หรือการทำคาง เป็นการทำศัลยกรรมอย่างหนึ่ง ด้วยวิธีผ่าตัดเล็กแล้วเสริมซิลิโคนซึ่งเหลาปรับทรงได้ตามความต้องการ ซิลิโคนที่ใช้นี้จะต้องได้มาตรฐานทางการแพทย์ ทำด้วยผู้เชี่ยวชาญ จึงจะมีความปลอดภัย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การเสริมคางเหมาะกับใคร?
การเสริมคางเหมาะสำหรับคนที่มีสัดส่วนของใบหน้าไม่สมดุล ได้แก่
- คางเล็กมากเกินไป คางหดสั้นเข้าไปด้านใน
- คนที่โครงหน้าไม่ได้รูป คางไม่สมส่วน
- คนที่ใบหน้าสั้น สัดส่วนคางไม่เข้ารูปกับสัดส่วนใบหน้าส่วนอื่น
นอกจากนี้การเสริมคางยังเหมาะสำหรับคนที่มีใบหน้ารูปกลม หน้ารูปเหลี่ยม โดยจะช่วยให้ใบหน้าแลดูมีมิติมากขึ้น และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความรี เรียวเล็ก ดูเป็นรูปไข่ ตามความนิยมของคนในปัจจุบัน
การเสริมคางมีแบบไหนบ้าง?
การเสริมคางด้วยซิลิโคเพื่อเติมเต็มรูปร่างของคางให้สมบูรณ์ เป็นการผ่าตัดขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะได้รูปทรงคางที่คงรูปและระยะยาว แบ่งออกได้ 2 แบบ ได้แก่ แบบผ่าตัดเปิดแผลจากภายในและแบบผ่าตัดเปิดแผลจากภายนอก แต่ละแบบมีรายละเอียดและข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนี้
1. การเสริมคางด้วยการผ่าตัดเปิดแผลจากภายใน
เป็นการผ่าตัดภายในช่องปาก บริเวณริมฝีปากล่างกับเหงือกด้านใน เพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปตรงบริเวณกระดูกคาง
ข้อดี
- ไม่มีแผลเป็น เพราะมองไม่เห็นแผลจากภายนอก
- เหมาะกับผู้ที่เป็นแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ (Keloid) เพราะแผลจะซ่อนอยู่ด้านใน
ข้อเสีย
ทำคางวันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 2,850 บาท ลดสูงสุด 71%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- แม้มองไม่เห็นแผลภายนอก แต่แผลในปากที่อยู่ติดกับร่องเหงือกจะไม่ค่อยสวยและเห็นชัด
- มีโอกาสติดเชื้อสูงจากน้ำลายหรือเศษอาหาร จึงต้องดูแลแผลในปากเป็นพิเศษ
- การวางซิลิโคนไว้ให้ติดกับกระดูกกรามล่าง มีโอกาสเคลื่อนที่และไม่ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการได้
- อาจเกิดปัญหากับกล้ามเนื้อคางและเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ ส่งผลให้มีการหดตัวของกล้ามเนื้อคาง เมื่อมองจากภายนอก ผิวหนังอาจดูไม่เรียบเนียนได้
- มีพื้นที่ในการผ่าตัดค่อนข้างจำกัด ต้องกรีดเปิดแผลในปากค่อนข้างยาวเพื่อวางซิลิโคน ทำให้เนื้อเยื่อช้ำและมีเลือดออกมาก การเย็บปิดแผลก็ค่อนข้างยุ่งยาก
- เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงจะแก้ไขได้ยาก เพราะแผลเย็บในปากมีมากแล้ว การผ่าตัดซ้ำอีกก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มแผลมากขึ้น
2. การเสริมคางด้วยการผ่าตัดเปิดแผลจากภายนอก
เป็นการผ่าตัดบริเวณใต้คาง
ข้อดี
- มีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าการเปิดแผลในช่องปาก
- กล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนค่อนข้างน้อย เพราะแพทย์สามารถหลีกเลี่ยงกล้ามเนื้อและเส้นประสาท เพื่อเข้าสู่ขอบล่างของกระดูกกรามได้โดยตรง
- เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงจะแก้ไขได้ง่ายกว่า เพราะสามารถผ่าตัดซ้ำที่แผลภายนอกได้เลย
- สามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้ง่าย
ข้อเสีย
- หลังเสริมคางด้วยวิธีนี้จะมีแผลเป็นเล็กน้อยบริเวณใต้คางเหมือนคางแตก ความยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ (Keloid)
ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมคาง
การเสริมคาง ทั้งแบบผ่าตัดเปิดแผลภายนอกและเปิดแผลภายใน มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- บ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนรับการผ่าตัด
- นอนพักในห้องผ่าตัด เพื่อตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจรก่อนรับการผ่าตัด
- แพทย์จะให้ยานอนหลับเพื่อลดความกังวล แล้วจึงค่อยฉีดยาชา เพื่อไม่ให้ไม่มีอาการเจ็บปวดในระหว่างการผ่าตัด
- ผ่าตัดเสริมคางโดยใช้ซิลิโคน และเย็บแผลด้วยไหมละลาย (ไม่ต้องตัดไหม)
- นอนพักที่ห้องพักฟื้นและประคบน้ำแข็งบริเวณที่ทำการผ่าตัด และนอนสังเกตอาการประมาณ 30 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ หลังการผ่าตัด และสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนค้าง
ผ่าตัดเสริมคาง ใช้เวลานานเท่าไร?
การเสริมคางใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที
ก่อนผ่าตัดเสริมคางควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
หลังจากปรึกษาแพทย์และตัดสินใจผ่าตัดเสริมคางแล้ว ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้การผ่าตัดเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดมีรายละเอียด ดังนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- งดยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น แอสไพริน
- งดอาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัดเสริมคาง รวมถึงสมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิงพริมโรส ยาวิตามิน E ปริมาณสูงๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อย่างน้อย 3-7 วัน เพราะอาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
- งดน้ำงดอาหารทุกชนิดก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง
- แปรงฟันและทานอาหารให้พร้อมก่อนผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดมักทานอาหารได้น้อย
- หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- ควรพาญาติหรือบุคคลใกล้ชิดมาด้วยในวันผ่าตัด
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมคาง มีอะไรบ้าง?
เมื่อผ่าตัดเสริมคางเสร็จแล้วก็ยังคงต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งคัด โดยวิธีดูแลตัวเองหลังเสริมคางโดยทั่วไป มีดังนี้
- หลังผ่าตัดจะมีอาการบวม จึงควรประคบเย็นอย่างน้อย 48 ชั่วโมง โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงประมาณ 2 สัปดาห์
- หมั่นบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด น้ำเกลือ หรือนำยาบ้วนปาก ทุก 2-3 ชั่วโมงและทุกครั้งหลังอาหาร เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดในช่องปาก
- ควรรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่าย เช่น อาหารอ่อนหรืออาหารเหลว และหลีกเลี่ยงการขยับปากในช่วงแรก
- หลังการผ่าตัดในภายในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดกิจกรรมที่ทำให้บาดแผลกระทบกระเทือน เช่น การวิ่ง กระโดด และห้ามเท้าคางเด็ดขาด
- ช่วงแรกๆ ให้นอนหงาย และหนุนหมอนสูงๆ เพื่อลดอาการบวม และอาการเลือดคั่ง
- งดทานอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง และอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยว รวมถึงงดของสุกๆ ดิบๆ เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนได้
- ดื่มน้ำมากๆ โดยควรใช้หลอดดูด เพื่อลดการขยับคาง
- งดการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดสูบฉีดขึ้นใบหน้ามาก จะทำให้หน้าบวมได้
- ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง พร้อมดูแลแผลอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
- ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณคาง ไม่ควรยิ้มหรือหัวเราะมากจนเกินไป และระมัดระวังไม่ให้เกิดแรงกระแทกมากระทบซิลิโคนมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ซิลิโคนที่ยังเกาะติดแน่นกับขอบกระดูกไม่ดีพอขยับเขยื้อนได้
- หากมีอาการผิดปกติจากการศัลยกรรม หรือสงสัยว่าตัวเองมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ข้อควรรู้และผลข้างเคียงจากการเสริมคาง
หลังจากผ่าตัดเสริมคาง ใบหน้าจะยังไม่เข้ารูปในทันที และอาจมีผลข้างเคียงบ้าง ดังนี้
- หากมีรอยเขียวช้ำหลังจากการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นบริเวณรอยเขียวช้ำ เพื่อให้รอยเขียวช้ำหายเร็วขึ้น
- อาการบวมมักจะยุบลงและได้รูปร่างของคางใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน หลังการผ่าตัด
- หลังการเสริมคาง อาจเกิดอาการชาบริเวณคาง ริมฝีปาก ฟันล่างด้านหน้า เนื่องจากเส้นประสาทถูกรบกวนจากการผ่าตัด แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเกิดเพียงชั่วคราว อาการชาจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ และฟื้นได้ในเวลาประมาณ 1-3 เดือน
- หากมีการกระแทกหรือกระทบอะไรแรงๆ อาจะส่งผลให้ก็อาจส่งผลให้คางเอียงได้ โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 1 เดือนหลังการผ่าตัด จะต้องแก้ไขโดยการผ่าเพื่อเข้าจัดคางใหม่
- ผู้ที่อาจเป็นอันตรายและไม่ควรเสริมคาง ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคลมชัก โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคเลือดและสตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
ค่าใช้จ่ายในการเสริมคาง
ค่าใช้จ่ายในการเสริมคางขึ้นอยู่กับคุณภาพและมาตรฐานของซิลิโคนที่เลือกใช้ รวมถึงสถานพยาบาลที่เลือกรับบริการในแต่ละที่ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 8,000-45,000 บาท
การเสริมคางเป็นการผ่าตัดเล็กอย่างหนึ่ง เมื่อผ่าตัดแล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นให้แผลผ่าตัดหายดี หากแพทย์ไม่ชำนาญ หรือเลือกใช้วัสดุซิลิโคนที่ไม่ได้รับมาตรฐาน จะส่งผลต่อเรื่องรูปทรง รอยแผลเป็น พังผืดรั้ง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลกันให้ดีก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญที่สุดต้องเลือกแพทย์และโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยแก่ตนเองและผลลัพธ์จากการศัลยกรรมผ่าตัดเสริมคาง