กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

แนะนำ 5 เคล็ดลับช่วยให้ผิวนุ่มและเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

เผยแพร่ครั้งแรก 18 มี.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 2021 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
แนะนำ 5 เคล็ดลับช่วยให้ผิวนุ่มและเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • การขัดผิวแรงเกินไป จะทำให้ผิวแดง และที่ขัดผิวอาจบาดผิวได้ จึงควรขัดเป็นครั้งคราวประมาณสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีน้ำหอม หรือสารเคมีอยู่ อาจทำให้ผิวระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้จนเป็นผื่นแดงขึ้นได้ ทางที่ดีจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติจะดีที่สุด
  • ควรเลือกโลชั่น หรือครีมเพิ่มความชุ่มชื้นที่มีกรดแลคติค และกรดซิลิซิลิกเพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่
  • ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อนบ่อย และนานเกินไป เพราะจะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งได้
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจทรีตเมนต์หน้า นวดหน้า

เมื่อพูดถึงการบำรุงผิว มีคนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้าจมลืมดูแลผิวกาย ทำให้ผิวแห้งกร้าน และหยาบกระด้างเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้ผิวของเราสามารถสูญเสียความนุ่มได้จากหลายเหตุผล 

ตัวอย่างเช่น การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศเย็น และมีความชื้นต่ำ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เหงื่อ และน้ำมันถูกขับออกมาน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนวิธีปรนนิบัติผิวในแต่ละวันสามารถทำให้คุณเห็นความแตกต่างของผิวครั้งใหญ่ สำหรับเคล็ดลับที่แนะนำมีดังนี้

5 เคล็ดลับช่วยให้ผิวนุ่มและเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

1. อย่าขัดผิวแรงเกินไป

การขัดผิวด้วยฟองน้ำที่มีผิวหยาบหรือใยบวบ หรือการใช้สครับที่ทำจากธัญพืช เมล็ดพันธุ์ หรืออนุภาคเล็กๆ อาจทำให้คุณรู้สึกดี  แต่มันอาจทำให้ผิวแดงหรือบาดผิว โดยเฉพาะถ้าคุณมีผิวบอบบาง 

แต่หากสครับที่มีความหยาบไม่ได้รบกวนผิวของคุณ มันก็เป็นเรื่องไม่ต้องวิตกกังลอะไร ถ้าคุณจะใช้มันเป็นครั้งคราว โดยอาจใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่สำหรับการดูแลผิวในแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ผิวมักมีความแห้งกร้านเป็นพิเศษ ให้คุณใช้สบู่ที่มีฤทธิ์อ่อนหรือ คลีนเซอร์แทน

2. หลีกเลี่ยงน้ำหอม และสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง

สบู่ล้างหน้า หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีกลิ่นอาจทำให้คุณมีกลิ่นตัวที่หอมชวนดม แต่มันกลับมีสารเคมีที่สามารถทำให้ผิวระคายเคืองได้ ทางที่ดีให้คุณเปลี่ยนมาใช้สบู่ก้อน หรือสบู่เหลวที่ปลอดน้ำหอม และให้สังเกตความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง 

นอกจากนี้คุณอาจใช้สบู่ที่มีส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างน้ำมันที่สกัดจากพืช กลีเซอรีน หรือปิโตรลาทัม

3. ซับผิวให้แห้ง และเติมความชุ่มชื้น

เมื่อคุณอาบน้ำเสร็จ ให้คุณซับตัวเองด้วยผ้าที่แห้ง และสะอาด พยายามอย่าถู เพราะมันสามารถทำให้ผิวระคายเคือง จากนั้นให้คุณทาครีมมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความหนาในขณะที่ผิวยังคงมีความชื้น ทั้งนี้ให้คุณเลือกใช้ครีมที่เป็นหลอด หรือเป็นกระปุกแทนโลชั่นที่บรรจุอยู่ในขวดที่มีฝาปั๊ม

เพราะในบางครั้ง โลชั่นอาจมีแอลกอฮอล์ หรือส่วนผสมที่ทำให้มันมีความบาง ในขณะที่ครีมจะมีเนื้อที่หนากว่า และจะช่วยกักเก็บความชื้นไว้ได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ให้คุณเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมที่ช่วยผลัดผิวอย่างกรดแลคติก หรือกรดซาลิซิลิก ซึ่งจะช่วยผลัดผิวด้านนอกที่แห้ง และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และสารกันเสีย เพราะมันสามารถทำให้ผิวที่บอบบางระคายเคือง และทำให้ผิวแดงหรือเป็นผื่น

4. อย่าลืมทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด โดยให้เลือกใช้ครีมที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย เพราะผิวที่ไหม้แดดสามารถทำให้ผิวแห้งหรือหยาบได้ชั่วคราว ทั้งนี้รังสียูวีในแสงแดดสามารถทำให้อิลาสติน และคอลลาเจนในผิวถูกทำลาย และนั่นก็จะทำให้ผิวของเราไม่เรียบเนียนหรือเต่งตึง

5. อาบน้ำเย็น และอย่าอาบนานเกินไป

บางทีการที่ผิวของคุณแห้งกร้านนั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณด้วย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวคุณไม่ชุ่มชื้น ก็คือ การอาบน้ำ 

เพราะยิ่งคุณใช้เวลาแช่ตัว หรืออาบน้ำนานเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้ผิวแห้งมากเท่านั้น ทั้งนี้น้ำร้อนยังทำให้ผิวแห้งมากกว่าน้ำอุ่น ดังนั้นคุณไม่ควรอาบน้ำที่ร้อนจนเกินไป และอย่าอาบน้ำนาน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในผิวให้คงอยู่กับคุณไปนานๆ 

โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านการเลเซอร์หน้า หรือใช้คลื่นความร้อนแก้ปัญหาผิวหน้ามาก่อน คุณอาจกำลังเผชิญกับผิวหน้าที่บางลงอย่างไม่รู้ตัว และยิ่งต้องดูแลผิวให้แข็งแรง ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

การมีผิวที่นุ่มและเรียบเนียนไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีความตั้งใจ และดูแลผิวอย่างถูกวิธี ใครที่รู้ตัวว่ามีผิวแห้งกร้าน การนำวิธีที่เราแนะนำข้างต้นไปปรับใช้ก็สามารถช่วยให้คุณกลับมามีผิวที่ทั้งนุ่ม และเรียบเนียนน่าสัมผัสอีกครั้ง

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจทรีตเมนต์หน้า นวดหน้า จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Tips for Taking Care of Your Skin (for Teens). Nemours KidsHealth. (https://kidshealth.org/en/teens/skin-tips.html)
Top 10 Tips for Healthy Winter Skin. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/skin-and-beauty/top-tips-for-healthy-winter-skin.aspx)
A Guide to Keeping Your Skin Healthy. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/skin-care-101-1069529)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ผิวแห้ง สาเหตุ อาการ วิธีรักษาป้องกันและการดูแลผิวให้คงความชุ่มชื้น
ผิวแห้ง สาเหตุ อาการ วิธีรักษาป้องกันและการดูแลผิวให้คงความชุ่มชื้น

อาการผิวแห้งมีหลายระดับ หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการอักเสบได้ มาเรียนรู้วิธีดูแลรักษา และป้องกันผิวแห้งกันเถอะ

อ่านเพิ่ม
8 วิธีการแก้ขอบตาดำ
8 วิธีการแก้ขอบตาดำ

รวม 8 วิธีแก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำ ตั้งแต่การปรับพฤติกรรม ใช้สูตรสมุนไพรช่วย จนถึงยิง IPL

อ่านเพิ่ม