จากที่จดบันทึกในแอพบันทึกประจำเดือน ซึ่งในแอพประมาณว่าประจำเดือนจะมาในวันที่ 21 สิงหาคม แต่ตอนนี้วันที่ 24 สิงหาคมแล้ว ประจำเดือนยังไม่มาเลยครับ แต่อาการของแฟนคือปวดท้องคล้ายประจำเดือนจะมาติดต่อกัน 3-4 วันแล้ว ก่อนหน้านี้ได้มีเพศสัมพันธ์ไป โดยทั้งหมดนี้ได้มีการป้องกันด้วยถุงยางอนามัยครับ อาการช่วงนี้ของแฟนจะเป็นหวัด กินยาแล้วทำให้ง่วงนอนในวันถัดไปบ้าง ไม่มีอาการที่อยากจะอาเจียนครับ อยากทราบว่าลักษณะนี้มีสิทธิที่จะมีโอกาศในการตั้งครรภ์ได้หรือเปล่าครับ

ไม่มีวิธีการคุมกำเนิดใดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ครับ การใช้ถุงยางอนามัยเองก็ป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากที่สุด 98% เท่านั้น นั่นหมายความว่า ถ้าหากเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เสมอครับ

ในเบื้องต้นนั้นจึงอาจต้องลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่สามารถเชื่อถือได้ครับ

ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าก็อาจเกิดจาก
- ไม่มีการตกไข่
- ระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- ความเครียด
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
ซึ่งก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ครับ

สวัสดีค่ะ การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงมีหลายปัจจัยมากค่ะ นอกจากการตั้งครรภ์แล้ว ภาวะเครียดวิตกกังวล ปัญหาจากสุขภาพทางกายก็อาจจะทำให้เดือนนั้น ๆ ประจำเดือนยืดออกไปได้หลายวันหรือเป็นสัปดาห์ค่ะ

อย่างไรก็ตามการที่มีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่คุณคุมกำเนิดทุกครั้งโดยการใส่ถุงยางอนามัย หากตรวจสอบและมั่นใจว่าไม่มีการแตกรั่วของถุงยาง ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดค่อนข้างสูงค่ะ โอกาสในการตั้งครรภ์จึงต่ำค่ะ

แต่ถ้ากังวลและประจำเดือนไม่มาตามกำหนดอาจจะตรวจการตั้งครรภ์ ลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 3-4 สัปดาห์ค่ะ

อาจจะเป็นอาการที่ประจำเดือนใกล้จะมาค่ะ โดยส่วนใหญ่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ นอกจากนี้อาจจะมีอาการปวดคัดเต้านม ตัวบวมขึ้น หงุดหงิดง่าย หรือปวดหน่วงลงอวัยวะเพศได้ค่ะ

อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นอาจเป็นได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- อาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือน
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ถ้ามีอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ ถ้ามีตกขาวผิดปกติร่วมด้วย
เป็นต้น
โดยสรุปคืออาการปวดท้องไม่มีความจำเพาะต่อสาเหตุใดเป็นพิเศษ และไม่ได้บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ

โดยปกตินั้นลักษณะของเลือดที่เป็นประจำเดือนควรจะต้อง
- มาติดต่อกัน 3-7 วัน
- ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น
- เลือดออกเป็นสีเก่าๆคล้ำๆ
ถ้าหากเลือดออกมาเพียงปริมาณเล็กน้อยแล้วหยุดไปใน 1 วันก็อาจจะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าใช่ประจำเดือนหรือไม่ครับ

ในขณะนี้จึงแนะนำให้สังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนครับ ถ้าในกรณีที่ประจำเดือนไม่มาจริงๆก็ให้ลองตรวจกการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วัน และใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจตามที่เคยได้แนะนำไปครับ