ยาคุมพรีมป้องกันได้ไหมคะพอดีไม่ได้ป้องกันเลยกังวลค่ะ😂

ยาคุมพรีมเป็นยาคุมรายเดือนนะคะ ต้องใช้ให้ถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดขึ้นก่อน จึงจะมีเพศสัมพันธ์ได้ นั่นคือ...

1. เริ่มใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ และการรับประทานในช่วงนี้ จะมีประสิทธิภาพที่จะยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบเดือนนั้นได้ทัน จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังเริ่มใช้ มีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย

2. แต่ถ้าเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน (ซึ่งจะใช้ได้ในกรณีที่นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาในรอบล่าสุด มาจนถึงวันที่จะใช้ยา ยังไม่มีเพศสัมพันธ์เลย) การเริ่มต้นใช้ยาคุมแผงแรกในกรณีนี้ จะต้องใช้ยาคุมพรีมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะเริ่มมีผลคุมกำเนิดได้ ดังนั้น ใน 7 วันแรกของการรับประทาน จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางร่วมด้วยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ไปก่อน
..
..
..
หากผู้ถามใช้ยาคุมพรีมถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดจากยาแล้ว ก็มีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกตินะคะ ถ้ารับประทานยาคุมถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก เพียง 0.3% เท่านั้นค่ะ

ถ้าเป็นการเริ่มใช้ใหม่ และใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาคุมพรีมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงเช่นเดียวกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาคุมกำเนิดนั่นเองนะคะ

ซึ่งในกรณีนี้ ให้รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ (สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินแบบหมดแผงในครั้งเดียวได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด หรือแผงละ 1 เม็ดก็ตาม)

ส่วนยาคุมพรีม ต่อให้ใช้ต่อก็ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฉุกเฉินนะคะ และหากใช้ต่อ จะทำให้ประจำเดือนในรอบนี้เลื่อนช้าออกไปตามการใช้ยา ดังนั้น จะหยุดใช้ไปก่อนก็ได้ค่ะ แล้วรอให้ประจำเดือนมาตามรอบปกติจึงค่อยเริ่มใช้ (หรือหากต้องการใช้ต่อก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าถึงกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่แล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ก็ต้องตรวจการตั้งครรภ์นะคะ)

ยาคุมฉุกเฉินที่มีใช้ในประเทศไทยในปัจจุบันมี 6 ยี่ห้อค่ะ ได้แก่ โพสตินอร์, มาดอนนา, แมรี่พิงค์, นอร์แพ็ก, เลดี้นอร์ และเมเปิ้ลฟอร์ท ทุกยี่ห้อมีตัวยาเดียวกัน และปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากันนะคะ ดังนั้น สามารถใช้ยี่ห้อใดก็ได้ที่หาซื้อได้สะดวก เพราะประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่แตกต่างกันค่ะ

สามารถรับประทานได้ 2 แบบค่ะ
1. วิธีดั้งเดิม รับประทานครั้งละ 1 เม็ด รวม 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
2. วิธีใหม่ รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันครั้งเดียว

ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ต้องรับประทานให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ (แต่ถ้าใช้ภายใน 72 ชั่วโมง จะมีประสิทธิภาพดีกว่า 72 - 120 ชั่วโมงค่ะ)

ดังนั้น หากรับประทานไปแล้ว 1 เม็ด ก็สามารถรับประทานเพิ่มอีกเม็ดได้เลยค่ะ