“สิว” เมื่อเกิดขึ้นกับใคร ก็มักทำให้คนๆ นั้นขาดความมั่นใจ และเชื่อว่าหลายๆ คนก็เคยมี “ประสบการณ์สิว” เหมือนกัน ดังนั้น HonestDocs ก็มีวิธีการปราบสิวฉบับ TIY หรือ Treat it yourself มาแนะนำให้ลองทำตามกัน จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามพร้อมๆ กันเลย
ประเภทของสิว
นอกจากใบหน้าแล้ว สิวยังสามารถพบได้ที่ คอ อก หลัง ไหล่ ต้นแขน หรือก้นด้วย ส่วนใหญ่มักขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันมากๆ ซึ่งการรักษาสิวอย่างถูกต้องและเหมาะสม เราอ้างอิงจาก GUIDELINE MANAGEMENT OF ACNE 2016 ของ American Academy of Dermatology จะเป็นการรักษาตามระดับความรุนแรงของสิว ซึ่งพิจารณาความรุนแรงจากจำนวนของสิวอักเสบที่พบ ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจกับสิวประเภทต่างๆ กันก่อนดีกว่า
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สิว แบ่งง่ายๆ เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สิวอุดตันหรือสิวไม่อักเสบ (กดไม่เจ็บ) และ สิวอักเสบ (กดเจ็บ) ซึ่งแบ่งต่อเป็นประเภทย่อยๆ ได้ดังนี้
ประเภท | ลักษณะ | ตัวอย่าง | |
สิวไม่อักเสบ (สิวอุดตัน) | |||
สิวหัวขาว / สิวหัวปิด (White head / closed comedones) |
ตุ่มนูนเล็ก ๆ หัวสีขาว | ||
สิวหัวดำ / สิวหัวเปิด (Black head / open comedones) |
ตุ่มนูนเล็ก ๆ มีจุดดำอยู่ตรงกลาง | ||
สิวอักเสบ | |||
ตุ่มนูนแดง
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
รักษาสิว ลดรอยสิววันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 93%จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม! กด
(papule) |
ตุ่มนูน สีแดง ขนาดเล็ก | ||
(pustule) |
ตุ่มหนอง มีหลายขนาด อาจอยู่ตื้นหรือลึกก็ได้ |
||
ตุ่มแดงก้อนลึก
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
รักษาสิว ลดรอยสิววันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 93%จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม! กด
(nodule) |
เป็นก้อนสีแดง ขนาดใหญ่ อาจพบรวมเป็นกลุ่มติดกัน |
||
ถุงใต้ผิวหนัง (cyst) |
เป็นก้อนนูน แดง นิ่ม มีถุงหนองขนาดใหญ่อยู่ใต้ผิวหนัง อาจรวมกันเป็นขนาดใหญ่มาก ๆ |
เมื่อเข้าใจลักษณะของสิวแต่ละประเภทแล้ว ก็มาเริ่ม “ภารกิจพิชิตสิว” ขั้นแรกกันดีกว่า ด้วยการหาระดับความรุนแรงของสิวบนใบหน้าของเรากันเลย
ระดับความรุนแรงของสิว
ระดับความรุนแรง | จำนวนตุ่มนูนแดงและตุ่มหนอง (papules and pustules) |
จำนวนตุ่มแดงก้อนลึก/ถุงใต้ผิวหนัง (nodules/cysts) |
สิวเล็กน้อย (mild acne) |
ไม่เกิน 10 จุด | ไม่มี |
สิวปานกลาง (moderate acne) |
มากกว่า 10 จุด | น้อยกว่า 5 จุด |
สิวรุนแรง (severe acne) |
มีจำนวนมาก | มากกว่า 5 จุด |
เมื่อทราบระดับความรุนแรงของสิวที่เป็นอยู่แล้ว ต่อไป คือ วิธีการรักษา
วิธีการรักษา
- สิวเล็กน้อย (mild acne)
จะรักษาด้วยยาทาเฉพาะที่ โดยมีทางเลือกในการรักษา ดังนี้
- ใช้ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) อย่างเดียว
- ใช้ยาทาวิตามินเอ (Topical retinoid) อย่างเดียว
- ใช้ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) + ยาปฏิชีวนะชนิดทา (Topical antibiotics)
- ใช้ยาทาวิตามินเอ (Topical retinoid) + ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide)
- ใช้ยาทาวิตามินเอ (Topical retinoid) + ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) + ยาปฏิชีวนะชนิดทา (Topical antibiotics)
การเลือกการรักษาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคน โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น จำนวนสิวอุดตันและสิวอักเสบ ข้อจำกัดในการใช้ยา (เช่น การแพ้ยา การตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร) งบประมาณ ประวัติการรักษาและการตอบสนองต่อการรักษา เป็นต้น
หากคุณยังไม่รู้ว่าจะพิจารณาอย่างไร คุณสามารถใช้การประเมินเบื้องต้นต่อไปนี้ เพื่อเลือกระดับการรักษาได้ ดังนี้
การประเมินเบื้องต้นเพื่อเลือกใช้ยารักษาสิวระดับเล็กน้อย (Mild acne)
หมายเหตุ :
- BPO หมายถึง Benzoyl peroxide (ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์)
- TR หมายถึง Topical retinoid (ยาทาวิตามินเอ)
- TA หมายถึง Topical antibiotics (ยาปฏิชีวนะชนิดทา)
ข้อมูลเพิ่มเติม
|
สิวปานกลาง
มีทางเลือกในการรักษา ดังนี้...
- ใช้ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) + ยาปฏิชีวนะชนิดทา (Topical antibiotics)
- ใช้ยาทาวิตามินเอ (Topical retinoid) + ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide)
- ใช้ยาทาวิตามินเอ (Topical retinoid) + ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) + ยาปฏิชีวนะชนิดทา* (Topical antibiotics)
- ใช้ยาทาวิตามินเอ (Topical retinoid) + ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) + ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน (Oral antibiotics)
- ใช้ยาทาวิตามินเอ (Topical retinoid) + ยาทาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) + ยาปฏิชีวนะชนิดทา* (Topical antibiotics) + ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน (Oral antibiotics)
*ยาปฏิชีวนะแบบทาที่แนะนำ คือ Erythromycin และ clindamycin เพราะจะลดการเกิดเชื้อดื้อยา
กรณีรักษาด้วยตนเองเบื้องต้น แนะนำให้พิจารณาการใช้สูตรที่ 1, 2 หรือ 3 สูตรใดสูตรหนึ่งก่อน หากผลรักษาไม่ดี (ประเมินผล เมื่อรักษาต่อเนื่องกัน 6-8 สัปดาห์แล้ว) จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน
การรับประทานยาปฏิชีวนะ แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมียาหลายตัวที่สามารถใช้ได้ แต่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลด้วย จำเป็นต้องประเมินอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา มีความปลอดภัยในการใช้ และไม่เกิดปัญหาการดื้อยาตามมา
- สิวรุนแรง
สิวที่มีระดับความรุนแรง หมายถึง อาการค่อนข้างหนักหรือมีความซับซ้อนมาก จึงไม่เหมาะที่จะรักษาด้วยตนเองเบื้องต้น อีกทั้งการเลือกใช้ยาที่เหมาะสมต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญอย่างมากเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด จึงไม่ขอกล่าวถึงในบทความนี้ ซึ่งเน้นการรักษาเบื้องต้นด้วยตัวเองมากกว่า ดังนั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับข้อมูลและการรักษาที่เหมาะสมจะดีที่สุด