หากคุณเคยเป็นนิ่วในไตมาก่อน คุณคงจะจำได้ว่าอาการปวดนั้นรุนแรงมากขนาดไหน และจะต้องมีอาการซ้ำ ๆ จนกว่านิ่วดังกล่าวนั้นจะหลุดออกมาทางปัสสาวะ พบว่าโรคนี้สามารถเกิดซ้ำได้ในหลายคน โดยพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่เคยเป็นนิ่วมาแล้วจะเป็นนิ่วอีกครั้งภายใน 7 ปีโดยไม่มีวิธีใดที่สามารถป้องกันได้
วิธีการป้องกันการเกิดนิ่วนั้นไม่ใช่วิธีการที่ซับซ้อน แต่ต้องใช้ความตั้งใจ นิ่วจะเกิดเมื่อมีสารเคมีบางชนิดสะสมอยู่ในปัสสาวะมากเพียงพอที่จะตกผลึก เมื่อผลึกเหล่านี้โตขึ้นก็จะกลายเป็นนิ่ว ซึ่งอาจอุดตันระบบทางเดินปัสสาวะได้ และเมื่อเกิดการอุดตัน ก็จะทำให้เกิดอาการปวดตามมา
ตรวจไต ฟอกไต รักษาโรคไต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 50 บาท ลดสูงสุด 83%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นิ่วส่วนใหญ่เกิดจากแคลเซียมรวมกับสารอย่างน้อยหนึ่งชนิดคือ oxalate หรือ phosphorous นอกจากนั้นนิ่วยังอาจเกิดจากกรดยูริกซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการสลายโปรตีนของร่างกาย
วิธีการป้องกันการเกิดนิ่วในไต
แพทย์ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการเกิดนิ่วในไตไว้ดังนี้
- ดื่มน้ำมาก ๆ : การดื่มน้ำเพิ่มจากปกติจะช่วยละลายสารที่อยู่ในปัสสาวะที่อาจทำให้เกิดนิ่ว คุณควรดื่มน้ำในปริมาณที่จะทำให้ร่างกายปัสสาวะออกมาได้ 2 ลิตรต่อวันหรือก็คือประมาณ 8 แก้ว คุณไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว แต่อาจดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำมะนาวหรือน้ำส้ม เพราะว่ากรด citrate ในเครื่องดื่มเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันการเกิดนิ่วได้เช่นกัน
- รับประทานแคลเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย: การรับประทานแคลเซียมน้อยเกินไปจะทำให้ระดับของ oxalate นั้นสูงขึ้นและเกิดนิ่วตามมา ดังนั้นคุณควรรับประทานแคลเซียมให้เหมาะสมกับอายุ วิธีที่ดีที่สุดก็คือการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม เนื่องจากมีการศึกษาที่พบว่าการรับประทานแคลเซียมเสริมนั้นอาจทำให้เกิดนิ่วในไตได้ ผู้ชายที่อายุมากกว่า 50 ปีควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัมร่วมกับวิตามินดีอีก 800-1,000 ยูนิตเพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย
- ลดปริมาณโซเดียม: อาหารที่มีโซเดียมสูงนั้นอาจกระตุ้นให้เกิดนิ่วได้ เนื่องจากมันจะเพิ่มปริมาณแคลเซียมในปัสสาวะ ดังนั้นจึงแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำสำหรับคนที่เสี่ยงต่อการเป็นนิ่ว ในปัจจุบันแนะนำให้รับประทานโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม แต่ถ้าหากคุณคิดว่าโซเดียมนั้นทำให้เกิดนิ่วในไตในอดีต ควรลดปริมาณการรับประทานเหลือ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนั้นการลดปริมาณโซเดียมยังดีต่อความดันโลหิตและหัวใจของคุณอีกด้วย
- จำกัดการรับประทานโปรตีนจากสัตว์: การรับประทานโปรตีนจากสัตว์ เช่น จากเนื้อแดง, สัตว์ปีก, ไข่ และอาหารทะเลนั้นจะเพิ่มระดับของกรดยูริกและอาจทำให้เกิดนิ่วในไตได้ อาหารเหล่านี้ยังจะไปลดระดับของ citrate ซึ่งเป็นสารในปัสสาวะที่ช่วยป้องกันการเกิดนิ่ว ดังนั้นหากคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นนิ่ว ควรจำกัดปริมาณการรับประทานของคุณให้ไม่เกิน 1 ชิ้นต่อวัน และขนาดของชิ้นนั้นไม่เกิน 1 ฝ่ามือ นอกจากนั้นสัดส่วนการรับประทานอาหารแบบนี้ยังดีต่อหัวใจอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดนิ่ว: เช่น chocolate, ผักโขม, รูบาร์บ, ชา และถั่วส่วนใหญ่นั้นมีสาร oxalate อยู่ในปริมาณมาก และน้ำอัดลมนั้นก็มี phosphate มาก สารทั้งสองชนิดนี้สามารถทำให้เกิดนิ่วได้ ดังนั้นหากคุณเป็นนิ่ว แพทย์อาจแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าวหรือลดการรับประทานอาหารในกลุ่มนี้ลง
สำหรับคนทั่วไป การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้มักจะไม่ได้กระตุ้นให้เกิดนิ่ว ยกเว้นแต่ว่าจะรับประทานเข้าไปในปริมาณมาก มีการศึกษาบางชิ้นที่พบว่าผู้ชายที่รับประทานวิตามินซีเสริมในขนาดที่สูงนั้นจะมีความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจเกิดจากการที่ร่างกายเปลี่ยนวิตามินซีให้กลายเป็น oxalate