ตกขาวสีน้ำตาลเป็นสีของตกขาวที่สามารถแสดงถึงความผิดปกติ หรือภาวะต่างๆ ของร่างกาย แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปว่า ตกขาวสีน้ำตาลต้องหมายถึงสีของเลือดเท่านั้น หรืออาจหมายถึงความผิดปกติร้ายแรง เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก เพราะมีสาเหตุมากมายที่สามารถทำให้เกิดตกขาวสีน้ำตาลได้
ความหมาย และสีปกติของตกขาว
ตกขาวคือ ของเหลวบริเวณช่องคลอดซึ่งทำหน้าที่สร้างความหล่อลื่นให้กับช่องคลอด และปากมดลูก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของร่างกายผู้หญิง
ตรวจมะเร็งสำหรับผู้หญิงวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 495 บาท ลดสูงสุด 79%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตกขาวปกติจะมีลักษณะเป็นมูกเหลวใสปนขาว ไม่มีกลิ่น ไม่สร้างความระคายเคืองให้ผิว ปริมาณจะมีเพียงวันละเล็กน้อยเท่านั้น แต่จะมีปริมาณมากขึ้นในช่วงใกล้มีประจำเดือน หรือตกไข่
สาเหตุที่ทำให้มีตกขาวสีน้ำตาล
ตกขาวสีน้ำตาลมักมีความเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาการมีประจำเดือน ทั้งก่อนและหลังมีประจำเดือน นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับโรคและอาการบาดเจ็บบางอย่างของอวัยวะสืบพันธุ์ได้อีกด้วย ซึ่งสามารถจำแนกสาเหตุได้ดังต่อไปนี้
1. การมีประจำเดือน
คุณจะสังเกตว่า ในช่วงก่อนมีประจำเดือน รวมถึงวันแรก และวันสุดท้ายของการมีประจำเดือน สีของประจำเดือนจะค่อนข้างเข้มเป็นสีน้ำตาล รวมถึงสีของตกขาวด้วย
นั่นเป็นเพราะในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เลือดสีแดงปกติและมีปริมาณน้อยถูกขังไว้ในมดลูก หรือช่องคลอดเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงเกิดการเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล
นอกจากเลือดประจำเดือนในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นสีน้ำตาลแล้ว อาจสังเกตว่า ประจำเดือนจะมีลักษณะเป็นก้อนเลือดแห้งกรังมากกว่าเป็นเลือดประจำเดือนด้วย
2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
สามารถพบได้ในหญิงวัยใกล้หมดประจำเดือนด้วยเช่นกัน ตกขาวสีน้ำตาลมักเป็นผลมาจากการทำงานที่ไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในเพศหญิง
ตรวจมะเร็งสำหรับผู้หญิงวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 495 บาท ลดสูงสุด 79%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากนี้คุณยังสามารถพบอาการข้างเคียงอื่นๆ ร่วมกับมีตกขาวสีน้ำตาลด้วยเช่นกัน ได้แก่
- นอนไม่หลับ
- ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน
- ไม่มีสมาธิ
- เป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection: UTI)
- น้ำหนักขึ้นผิดปกติ
ส่วนในหญิงวัยใกล้หมดประจำเดือนซึ่งระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดต่ำลงนั้นจะมีอาการอื่นๆ ร่วมกับมีตกขาวสีน้ำตาลดังต่อไปนี้
- มีปัญหาด้านการนอนหลับ
- มีเหงื่อออกมากขณะนอนหลับ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ช่องคลอดแห้ง
- อารมณ์แปรปรวน
- มีอาการร้อนวูบวาบ (Hot flash)
3. การรับประทานยาคุมกำเนิด
ในช่วงแรกของการใช้ยาคุมกำเนิดอาจมีผลข้างเคียงเป็นตกขาวสีน้ำตาลได้ โดยเฉพาะหากรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยกว่า 35 ไมโครกรัม หรือใช้ยาคุมกำเนิดแบบฝัง (contraceptive implant)
หากมีตกขาวสีน้ำตาลในระหว่างใช้ยาคุมกำเนิดมากกว่า 3 เดือน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาให้เปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นแบบอื่นแทน
4.โรคเกี่ยวกับถุงน้ำรังไข่
โรคเกี่ยวกับถุงน้ำรังไข่ (Ovarian Cyst) สามารถทำให้มีตกขาวสีน้ำตาลได้ เช่น
ซีสต์ในถุงน้ำรังไข่ (Follicle Cyst)
ซีสต์ในถุงน้ำรังไข่ (Follicle Cyst) เกิดจากถุงน้ำภายในรังไข่ ถุงน้ำนี้จะทำหน้าที่บรรจุไข่ให้เจริญเติบโตไม่แตกออก และทำให้ของเหลวภายในถุงน้ำก่อตัวเป็นซีสต์ขึ้นมา
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ซีสต์ในถุงน้ำรังไข่สามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้ ส่งผลให้ตกขาวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ร่วมกับอาการเจ็บกระดูกเชิงกรานอย่างรุนแรง
ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovarian Syndrome: PCOS) เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ รวมถึงฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงร่วมกับไม่มีไข่ตก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ เช่น
- มีภาวะขนดก หรือผมร่วง ผมบางลงผิดปกติ
- เป็นสิวมาก
- ผิวหนังหมองคล้ำ
- อ้วนลงพุง
- มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และอารมณ์แปรปรวน
- ประจำขาดเป็นเวลานาน
- มีตกขาวสีน้ำตาล
5.การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Disease: STD) ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดตกขาวสีน้ำตาล รวมถึงมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดได้อีกด้วย เช่น
- โรคหนองในแท้ (Gonorrhea)
- โรคหนองในเทียม (Chlamydia)
- ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis)
นอกจากมีตกขาวสีน้ำตาลแล้ว ผู้ป่วยยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
- ระคายเคือง หรือคัน ช่องคลอด
- เจ็บอวัยวะเพศขณะปัสสาวะ และขณะมีเพศสัมพันธ์
- ปวดท้องน้อย
- มีตกขาวสีอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น สีเขียว สีเหลือง
6. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)เป็นภาวะที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญเติบโตอยู่ภายนอก หรือบริเวณผนัง กล้ามเนื้อของมดลูก
ภาวะนี้มักทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดบริเวณท้องน้อยอย่างรุนแรง รวมถึงมีตกขาวสีน้ำตาล และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- ท้องอืด
- คลื่นไส้อาเจียน
- อ่อนเพลียง่าย
- ท้องผูก
- ท้องร่วง
- เจ็บแสบขณะปัสสาวะ และขณะมีเพศสัมพันธ์
ตกขาวสีน้ำตาลกับการตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ถือเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตกขาวเป็นสีน้ำตาลได้ สามารถจำแนกระยะของการตั้งครรภ์ที่อาจมีตกขาวสีน้ำตาลได้ดังต่อไปนี้
1. ช่วงการฝังตัวของตัวอ่อน
ในช่วง 10-14 วันแรกของการตั้งครรภ์ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวอ่อนไปฝังตัวอยู่ที่เยื่อบุมดลูก อาจพบว่า มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดในปริมาณเล็กน้อย หรืออยู่ในรูปตกขาวสีน้ำตาลก็ได้
นอกจากนี้อาจพบอาการข้างเคียงอื่นๆ ร่วมกัน เช่น คลื่นไส้อาเจียน ตัวบวม อ่อนเพลียง่าย คัดตึงหน้าอก ซึ่งเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์
หากคุณกำลังวางแผนมีลูก และมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ควรไปซื้ออุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์มาทดสอบ
2. ระหว่างการตั้งครรภ์
หากมีอายุครรภ์มากกว่า 10 สัปดาห์ และมีตกขาวสีน้ำตาล หรือมีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเป็นสัญญาณของการแท้งบุตรได้
นอกจากตกขาวและเลือดไหลออกจากช่องคลอด ยังมีอาการข้างเคียงอื่นๆ ที่ควรสังเกต และควรไปพบแพทย์ทันที
- ปวดเจ็บบริเวณท้องน้อย
- เวียนศีรษะ
- เป็นลม
3. การตั้งครรภ์นอกมดลูก
การตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic Pregnancy) คือ การตั้งครรภ์ที่ตัวอ่อนไม่ได้ไปฝังตัวอยู่ที่ผนังมดลูกอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้มีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรงจนลามขึ้นมาถึงหัวไหล่ เวียนศีรษะ มีเลือดไหลออกจากช่องคลอด รวมถึงมีตกขาวสีน้ำตาลด้วย
4. หลังจากคลอดบุตรแล้ว
หลังจากคลอดบุตรแล้ว 4-5 สัปดาห์ อาจมีน้ำคาวปลา (Lochia) ไหลออกมาจากช่องคลอด (น้ำคาวปลาคือ ของเหลว เช่น เลือด น้ำคร่ำ แบคทีเรีย เยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกหลังจากคลอดบุตรนั่นเอง)
ในช่วงแรกน้ำคาวปลาจะมีสีแดงและอาจมีลิ่มเลือดปน แต่หลังจากผ่านไปประมาณ 3 วันน้ำคาวปลาจะมีสีจางลง อาจเป็นสีใสปนน้ำตาล ซึ่งสามารถเป็นตกขาวสีน้ำตาลได้เช่นกัน
ตกขาวสีน้ำตาลกับความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
หลายคนยังเชื่อว่า ตกขาวสีน้ำตาลเป็นหนึ่งในอาการของโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก ซึ่งก็ไม่ใช่ความเชื่อที่ผิดนัก เพราะสีของตกขาวที่ผิดปกติก็เป็นหนึ่งในสัญญาณของโรคมะเร็งปากมดลูกเช่นกัน เพียงแต่ต้องมีอาการอื่นๆ ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งร่วมด้วย เช่น
- ปวดท้องน้อย
- ตรวจพบก้อนเนื้อ
- น้ำหนักลด
- อ่อนเพลียบ่อยผิดปกติ
- ขับถ่ายยาก ทั้งปัสสาวะ และอุจจาระ
- ขาบวม
หากมีอาการเหล่านี้ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจวินิจฉัย แต่หากยังไม่มีการอื่นๆ ตามที่กล่าวไปข้างต้น ก็อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปก่อนว่า ตนเองเป็นโรคมะเร็ง
อาการของตกขาวสีน้ำตาลที่ควรไปพบแพทย์
ตกขาวสีน้ำตาลยังไม่จัดเป็นสีของตกขาวที่ต้องไปพบแพทย์ทันทีที่เจอ อย่างไรก็ตาม หากตกขาวมีลักษณะดังนี้
- ตกขาวมีสีน้ำตาลมากกว่า 1 สัปดาห์
- มีตกขาวสีน้ำตาลทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาว หรือเหม็นเปรี้ยว
- มีตกขาวสีน้ำตาลร่วมกับอาการปวดท้อง คันช่องคลอด
คุณควรไปพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจวินิจฉัยเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้มีตกขาวสีน้ำตาลได้ เพื่อให้คุณรู้เท่าทันโรคที่เป็นสาเหตุทำให้มีตกขาวสีผิดปกติ รวมถึงไม่ตื่นตูมไปก่อนว่า ตนเองอาจเป็นโรคร้ายบางอย่าง
คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของตกขาวที่ผิดปกติแต่ละสีเอาไว้ เพื่อจะได้หาสาเหตุเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง และไม่เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสีของตกขาวที่เกิดขึ้น
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโรคมะเร็งสำหรับผู้หญิง จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android