อาหารและเครื่องดื่มสำหรับกรดไหลย้อน (Heartburn)

อาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายเรามีพลังงานสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ แต่หากคุณกำลังประสบกับ “ภาวะกรดไหลย้อน” คุณควรใส่ใจเกี่ยวกับอาหารการกินเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้อาการผิดปกติที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดสามารถกระตุ้นให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้ซึ่งจะทำให้ภาวะกรดไหลย้อนแย่ลง หากเรามีความรู้เกี่ยวกับอาหารและรู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ก็จะช่วยให้การรักษาโรคกรดไหลย้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มีคำถามเกี่ยวกับ กรดไหลย้อน? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

โรคกรดไหลย้อน

โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) มีสาเหตุสำคัญจากการไหลย้อนกลับของกรด หรือน้ำย่อยในกระเพาะ ทำให้อาหารย้อนกลับขึ้นไปอยู่ในหลอดอาหารส่วนบน โรคนี้สามารถพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน หรือแม้แต่ตอนที่ไม่ได้รับประทานอาหารก็ตาม

อาการกรดไหลย้อนที่พบบ่อย มีดังนี้

  • จุกแน่นหน้าอกคล้ายอาหารไม่ย่อย
  • แสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่
  • อาจมีปวดร้าวไปที่บริเวณคอ รู้สึกเหมือนมีก้อนจุกอยู่ที่คอ กลืนลําบาก กลืนเจ็บ
  • เจ็บคอ แสบคอ เรอบ่อย คลื่นไส้ รู้สึกเหมือนมีน้ำรสเปรี้ยว หรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาที่คอ หรือปาก
  • ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร
  • บางรายอาจมีกลิ่นปาก เสียวฟัน หรือฟันผุร่วมด้วยได้
  • หากมีอาการดังที่กล่าวไปแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพหรือปรึกษาแพทย์ออนไลน์เพื่อขอคำแนะนำ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ถูกต้องเพื่อบรรเทาอาการกรดไหลย้อน

อาหารสําหรับคนเป็นกรดไหลย้อน

โดยทั่วไปอาหารที่บรรจุในรายการ “อาหารปลอดภัย” มักไม่ก่อให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน แต่รายการที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน จึงแนะนำให้ทำรายการอาหารเฉพาะสำหรับตัวเองในทุกๆ สองสัปดาห์พร้อมทั้งจดรายละเอียดของอาการที่เกิดขึ้นด้วย

อาหารที่เหมาะสำหรับกรดไหลย้อนทั่วไป

กลุ่มอาหารที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน โดยเฉพาะที่เป็นบ่อย

  • ผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลสด หรือแห้ง น้ำแอปเปิ้ล กล้วย
  • ผัก เช่น มันฝรั่งอบ ผักบรอคโคลี่ กะหล่ำปลี แครอต ถั่วเขียว ถั่วชนิดต่างๆ
  • เนื้อ เช่น เนื้อวัวบด สเต็กไขมันน้อย เนื้ออกไก่ไม่มีหนัง เนื้อวัวส่วนคอถึงไหล่ ไข่ขาว ผลิตภัณฑ์แทนไข่ (มักแทนไข่แดงด้วยสารอย่างอื่นเพื่อหลีกเลี่ยง คอเลสเตอรอล) ปลาไม่มีไขมัน
  • ผลิตภัณฑ์นม เช่น ชีส นมแพะ ครีมชีสปราศจากไขมัน ครีมเปรี้ยวปราศจากไขมัน ชีสถั่วเหลืองไขมันต่ำ
  • ธัญพืช เช่น ขนมปังธัญพืช ธัญพืชรำข้าวหรือข้าวโอ๊ต ขนมปังข้าวโพด ข้าวสีน้ำตาล หรือข้าวขาว
  • เครื่องดื่ม เช่น น้ำเปล่า น้ำแร่
  • น้ำสลัดไขมันต่ำ
  • ขนม หรือของหวาน เช่น  มันฝรั่งอบ

อาหารที่เหมาะสำหรับกรดไหลย้อนระดับไม่รุนแรง

กลุ่มอาหารที่อาจมีความเป็นกรดบ้าง คนมีอาการกรดไหลย้อนเล็กน้อยพอทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่หากมีอาการผิดปกติควรหลีกเลี่ยง

  • ผลไม้ เช่น น้ำส้มความเป็นกรดต่ำ พีช บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ องุ่น หรือแครนเบอร์รี่แห้ง
  • ผัก เช่น กระเทียม หัวหอมสุก กระเทียมต้น กะหล่ำปลีดอง หรือต้นหอม
  • เนื้อ เช่น เนื้อวัวบดไขมันน้อย สลัดไก่ ไข่ทอดในเนย ไข่ทอด ปลาทอด สลัดปลาทูน่า ไส้กรอกเนื้อวัว หรือเนื้อหมูแฮม
  • ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต นมไขมันต่ำหรือพร่องมันเนย โยเกิร์ตแช่แข็ง เนยแข็งสดไขมันต่ำ (cottage cheese) เชดดาร์ชีส หรือชีสสด
  • ธัญพืช เช่น ขนมปังกระเทียม มัฟฟิน หรือธัญพืชชนิดกราโนล่า
  • เครื่องดื่ม เช่น ไวน์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ โคล่า รูทเบียร์
  • ขนม หรือของหวาน เช่น คุกกี้ที่มีไขมันต่ำ

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับกรดไหลย้อน

อาหารบางชนิดทำให้อาการกรดไหลย้อนรุนแรงขึ้น ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ เพื่อลดโอกาสการกำเริบของโรค และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

  • ผลไม้ เช่น น้ำส้ม มะนาว น้ำมะนาว น้ำเกรปฟรุต น้ำแครนเบอร์รี่ หรือมะเขือเทศ
  • ผัก เช่น มันบด มันฝรั่งทอด หรือหัวหอมดิบ
  • เนื้อ เช่น เนื้อวัวบด เนื้อสันคอ เนื้อสันนอก นักเก็ตไก่ หรือปีกไก่ทอด (ไม่ชุบแป้ง)
  • ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ครีมเปรี้ยว นมปั่น ไอศครีม หรือเนยแข็งสดแบบปกติ
  • เครื่องดื่ม เช่น เหล้า ไวน์ กาแฟ ชา
  • ไขมัน หรือน้ำมัน เช่น น้ำสลัดชนิดครีม น้ำสลัดน้ำมัน น้ำส้มสายชู
  • ขนม หรือของหวาน เช่น คุกกี้เนยที่มีไขมันสูง บราวนี่ ช็อคโกแลต โดนัท ขนมที่ทำจากข้าวโพด หรือมันฝรั่งทอด

นอกจากนี้ยังควรรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่รับประทานจุบจิบ หรือรับประทานเสร็จแล้วนอนทันที แต่ควรให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งโดยทั่วไปใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ดังนั้นอาหารมื้อเย็นจึงไม่ควรเป็นมื้อหนักย่อยยาก

มีคำถามเกี่ยวกับ กรดไหลย้อน? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

กรดไหลย้อน ควรทานน้ำอย่างไร

การเลือกน้ำที่เหมาะสมและดื่มอย่างถูกวิธี สามารถช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ดื่มน้ำในปริมาณน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำปริมาณมากในคราวเดียว โดยเฉพาะก่อนนอน
  • หลีกเลี่ยงน้ำเย็นจัดหรือน้ำร้อนจัด เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการ

การจดบันทึกอาการกรดไหลย้อน

  • เริ่มจากบันทึกสิ่งที่คุณรับประทานและเวลาที่รับประทาน เป็นระยะเวลา 7 วัน
  • บันทึกสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการกรดไหลย้อนต่างๆ
  • ระดับความรุนแรงของแต่ละช่วงอาการ
  • ลักษณะอาการที่ร่างกายของคุณตอบสนอง
  • สิ่งที่ช่วยให้อาการดีขึ้น

การนำข้อมูลเหล่านี้ให้แพทย์พิจารณาร่วมกับการซักประวัติและตรวจร่างกายจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัย ให้การรักษา และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับอาการของคุณได้ดีที่สุด

ดังนั้น หากมีอาการกรดไหลย้อน ก็ควรเริ่มแก้ไขจากการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ประเภทของอาหารที่ควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยง รวมทั้งบันทึกอาการกรดไหลย้อนตั้งแต่วันนี้


คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อนกินอะไรได้บ้าง และไม่ควรทานอะไร ?

ผู้ที่มีกรดไหลย้อน ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่ายและไม่กระตุ้นอาการ

  • ผัก เช่น บรอกโคลี แครอท ผักใบเขียว
  • ผลไม้ เช่น กล้วย แอปเปิล สาลี่ (หลีกเลี่ยงผลไม้เปรี้ยว)
  • โปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา เต้าหู้
  • คาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต
  • ไขมันดี เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก อัลมอนด์
  • เครื่องดื่ม เช่น น้ำเปล่า ชาสมุนไพร ชาคาโมมายล์ (ชาที่ไม่มีคาเฟอีนต่างๆ)

ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน เปรี้ยว เผ็ด เครื่องดื่มคาเฟอีน เช่น กาแฟ เพื่อลดโอกาสกระตุ้นอาการกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน ดื่มน้ำอะไรได้บ้าง ?

สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน การเลือกดื่มน้ำที่เหมาะสมสามารถช่วยบรรเทาอาการและลดความระคายเคืองของหลอดอาหารได้ คำแนะนำเกี่ยวกับน้ำที่เหมาะสำหรับผู้มีกรดไหลย้อน มีดังนี้

  1. น้ำเปล่า ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะไม่มีกรดหรือส่วนผสมที่กระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อน
  2. น้ำขิง มีคุณสมบัติลดการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของหลอดอาหาร
  3. น้ำว่านหางจระเข้ ช่วยลดการอักเสบและสร้างความชุ่มชื้นในหลอดอาหาร
  4. ชาที่ไม่มีคาเฟอีน เช่น ชาคาโมมายล์หรือชาลาเวนเดอร์ สามารถช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้

เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นกรด ก็สามารถดื่มได้เช่นกัน

กรดไหลย้อน ไม่ควรทานน้ำอะไร ?

  1. น้ำอัดลม มีกรดคาร์บอนิกและน้ำตาลสูง กระตุ้นการเกิดกรดไหลย้อน
  2. ชา กาแฟ ที่มีคาเฟอีน มีคาเฟอีนซึ่งกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
  3. เครื่องดิ่มแอลกอฮอล์ ทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ
  4. น้ำผลไม้รสเปรี้ยว เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำสับปะรด มีกรดที่เพิ่มความระคายเคือง

กรดไหลย้อน กินโยเกิร์ตได้ไหม ?

โยเกิร์ตกินได้สำหรับผู้ที่มีกรดไหลย้อน แต่ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไขมันต่ำ และไม่ใส่น้ำตาลหรือผลไม้รสเปรี้ยว รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ (1/2 – 1 ถ้วยต่อวัน) และหลีกเลี่ยงการกินก่อนนอนเพื่อลดโอกาสกระตุ้นอาการกรดไหลย้อน

มีคำถามเกี่ยวกับ กรดไหลย้อน? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ