ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญเป็นภาวะผิวหนังระยะยาวที่ทำให้ผิวหนังมีอาการคัน แดง บวม และแตกเป็นแผ่นทรงกลมหรือรูปไข่
แผ่นหรือปื้นผิวหนังที่เกิดขึ้นอาจมีขนาดตั้งแต่ไม่กี่มิลลิเมตรจนไปถึงไม่กี่เซนติเมตร และสามารถเกิด ณ ตำแหน่งใดของร่างกายก็ได้ ซึ่งมักจะไม่เกิดขึ้นบนใบหน้าหรือหนังศีรษะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปื้นนี้มักจะเกิดอาการบวม มีตุ่มหนอง และมีของเหลวขับออกมาในช่วงแรก และจะค่อย ๆ แห้ง แตก และหลุดเป็นสะเก็ดไปเอง
ปื้นที่เกิดขึ้นสามารถหายได้เอง ซึ่งอาจจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้แต่เป็นปี ๆ หากไม่ทำการรักษาใด ๆ และมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง
ควรไปรับการรักษาเมื่อไร?
คุณควรไปพบแพทย์หรือเภสัชกรหากคุณคาดว่ามีภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญบนผิวหนัง
แพทย์จะสามารถวินิจฉัยภาวะนี้ได้จากการตรวจสอบผิวหนังบริเวณที่มีอาการ และบางกรณีก็อาจมีการสอบถามหรือจัดการทดสอบอื่น ๆ เพิ่มเพื่อกำจัดความเป็นไปได้ของภาวะอื่น ๆ
แพทย์อาจส่งคุณไปพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังหากว่าพวกเขาไม่สามารถวินิจฉัยภาวะหรือไม่มั่นใจกับผลการตรวจเพื่อให้ดำเนินการทดสอบแผ่นผิวหนังแทน
อีกทั้งแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจะสามารถแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมไปตามกรณีได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อะไรเป็นสาเหตุของผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ?
สาเหตุการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่ภาวะนี้มักจะเกิดขึ้นร่วมกับภาวะผิวแห้ง จึงคาดกันว่าภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญเกิดขึ้นเนื่องจากความระคายเคืองบนผิวหนัง
ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญมักจะเกิดกับผู้ใหญ่ และหายากในเด็ก โดยมักพบกับผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 50-70 ปี และผู้หญิงตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นหรือประมาณ 20 ปี
ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะผิวหนังอักเสบอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
สามารถรักษาผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญได้อย่างไร?
ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญมักจะเป็นภาวะระยะยาว แต่ก็มีวิธีการรักษาด้วยยาที่สามารถบรรเทาอาการและควบคุมอาการได้ ดังนี้:
การใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง: ผิวหนังที่ชุ่มชื้นจะช่วยหยุดและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งได้
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่: ครีมหรือยาทาบนผิวหนังที่สามารถช่วยบรรเทาอาการที่รุนแรง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ยาแอนติฮิสตามีน: ยาที่ช่วยลดอาการคันและทำให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น
อีกทั้งยังมีวิธีมากมายที่คุณสามารถปฏิบัติเพื่อเลี่ยงการเกิดโรคนี้ขึ้นได้ เช่นเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีสารเคมี ยาดับกลิ่นกาย สบู่อาบน้ำแบบมีฟอง หรือเจลอาบน้ำ เป็นต้น
และอาจยังมีการใช้ยาเพิ่มเติมในกรณีที่ภาวะผิวหนังติดเชื้อหรือมีความรุนแรงเป็นพิเศษ
อาการของผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ
ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญจะทำให้มีปื้นเด่นบนผิวหนัง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นวงกลมหรือรูปไข่
ปื้นดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นมาบนส่วนใดของร่างกายก็ได้ ตั้งแต่:
- ขาส่วนล่าง
- ต้นแขน
- หน้าท้อง
- มือ
- เท้า
ใบหน้าและหนังศีรษะมักจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากภาวะนี้
สัญญาณแรกของผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญคือจะมีกลุ่มจุดหรือตุ่มสีแดงขนาดเล็กบนผิวหนัง ซึ่งจะค่อย ๆ ก่อตัวกันจนกลายเป็นปื้นสีชมพู สีแดง หรือสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่อาจมีขนาดได้ตั้งแต่ไม่กี่มิลลิเมตรไปจนถึงหลายเซนติเมตร
แรกเริ่มปื้นเหล่านี้จะมีอาการบวม มีตุ่มหนอง และมีหนองไหลออกมาก่อน ซึ่งมักจะก่อให้เกิดอาการคันอย่างมากในช่วงกลางคืน
เมื่อเวลาผ่านไป ปื้นเหล่านี้จะค่อย ๆ แห้ง แตก และหลุดออก จนในบางครั้งศูนย์กลางของปื้นจะมีใส และทิ้งให้เกิดผิวหนังที่มีสีเปลี่ยนไปในรูปของวงแหวนจนอาจจะถูกวินิจฉัยพลาดว่าเป็นโรคกลาก
คุณอาจจะประสบกับปื้นจากโรคผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญเพียงตำแหน่งเดียวก็ได้ ซึ่งคนส่วนมากจะเกิดปื้นขึ้นหลายจุดตามร่างกาย ซึ่งจะมีผิวหนังระหว่างปื้นแห้งมาก
ปื้นจากผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญสามารถคงอยู่ได้นานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้แต่เป็นปี ๆ หากไม่ทำการรักษาอะไรเลย และสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกด้วย (มักเกิดขึ้นใหม่ ณ ตำแหน่งเดิมที่เคยเป็น)
บางครั้งผิวหนังที่เป็นผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญอาจจะมีสีเปลี่ยนไปถาวรหลังจากหายจากปื้นแล้ว
สัญญาณของการติดเชื้อ
ปื้นของผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญสามารถติดเชื้อได้ โดยสัญญาณของการติดเชื้อมีดังนี้:
- ปื้นที่มีของเหลวขับออกมามาก
- มีสะเก็ดสีเหลืองเกิดขึ้นบนปื้น
- ผิวหนังรอบปื้นแดง ร้อน บวม และกดเจ็บหรือเจ็บปวดมาก
- รู้สึกไม่สบาย
- หนาวสั่น
- มีความรู้สึกทั่วไปของการไม่สบาย
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร?
คุณควรไปพบแพทย์หรือเภสัชกรทันทีที่คุณคาดว่าตนเองเป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญเนื่องจากว่าภาวะนี้มักจะใช้เวลานานกว่าจะหายเอง และอาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้
คุณควรไปพบแพทย์หากว่าผิวหนังของคุณติดเชื้อขึ้นเพื่อเข้ารับการรักษาด้วยครีมปฏิชีวนะ หรือในกรณีที่ติดเชื้อรุนแรงอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะแบบเม็ด
สาเหตุของผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ
สาเหตุการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ภาวะนี้มักจะเกิดขึ้นกับผิวหนังที่แห้ง
ผิวแห้งหมายถึงการที่ผิวหนังไม่มีเกราะกำบังต่อสารต่าง ๆ ไม่ให้มาสัมผัสโดยตรง ซึ่งทำให้ผิวหนังที่แห้งจะอ่อนไหวจนเกิดปฏิกิริยาต่อสารต่าง ๆ ที่อาจจะไม่ควรเป็นอันตรายใด ๆ อย่างเช่นสบู่
เมื่อคุณมีผิวแห้ง คุณต้องระมัดระวังสารเคมีทุกชนิดในเครื่องสำอางหรือแม้แต่เครื่องนุ่งห่มไม่ให้มาสัมผัสกับผิวหนังมากเกินไป
ผื่นสัมผัสซึ่งเป็นภาวะผิวหนังอักเสบประเภทหนึ่งที่เกิดจากการสัมผัสกับสารก่อความระคายเคืองบางอย่างเองก็มีส่วนก่อให้เกิดภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญขึ้น
ผู้ป่วยผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญบางคนอาจมีประวัติเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งมักจะเป็นมากในผู้ป่วยหอบหืดและไข้ละอองฟาง แต่กระนั้นภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญก็ไม่ส่งต่อกันในสายครอบครัวแต่อย่างใด
สิ่งเร้าอื่น ๆ ที่เป็นไปได้
การเกิดผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญกะทันหันอาจเป็นเพราะการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ผิวหนัง อย่างเช่นการถูกแมลงกัดต่อยหรือผิวไหม้
การใช้ยาก็อาจมีส่วนในการเกิดภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญได้เช่นกัน โดยปื้นของภาวะผิวหนังอักเสบสามารถเกิดขึ้นกับผู้ที่:
ใช้ยาอินเทอร์เฟรอน และริบาวิริน: ซึ่งเป็นยาที่ต้องใช้ร่วมกันในการรักษาโรคตับอักเสบ C
tumour necrosis factor -alpha (TNF-alpha) blockers: ซึ่งใช้รักษาโรคข้ออักเสบบางประเภท
สแตติน (ยาลดระดับคอลเลสเตอรอล): ก่อให้เกิดอาการผิวแห้งและผื่นขึ้น
อีกทั้งสภาพอากาศที่แห้งและหนาวเย็นก็สามารถทำให้ผิวหนังอักเสบรูปเหรียญทรุดลงได้ ในทางกลับกันสภาพอากาศที่มีแดดจ้าหรือชื้นก็อาจทำให้อาการของคุณดีขึ้นมา
การรักษาผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ
ยังไม่มีวิธีรักษาผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญที่ง่ายดาย มีเพียงการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ เท่านั้น ซึ่งมีดังนี้:
- ยาเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง: ซึ่งควรใช้ตลอดเวลา
- สารที่ใช้แทนสบู่: เพื่อเปลี่ยนจากสบู่ที่ก่อความระคายเคืองแก่ผิวหนัง
- ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่: สำหรับอาการที่เกิดขึ้นกะทันหัน
- ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ทางปาก: สำหรับอาการรุนแรงที่เกิดขึ้นกะทันหัน
- ยาปฏิชีวนะ: สำหรับภาวะผิวหนังอักเสบติดเชื้อ
- ยาต้านฮิสตามิน: สำหรับอาการคันรุนแรง
ยาแต่ละประเภทจะมีวิธีจัดเตรียมที่แตกต่างกัน คุณควรเข้าปรึกษากับเภสัชกรเพื่อมองหายาที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว สารแทนสบู่ และยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่สามารถหาซื้อได้จากร้านขายยาโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์ ซึ่งยาบางตัวอาจมีราคาถูกกว่าการไปรับเองที่โรงพยาบาล
ให้คุณสอบถามเภสัชกรในเรื่องผลิตภัณฑ์แต่ละตัวและวิธีใช้งาน และต้องเข้าพบแพทย์ทันทีที่ภาวะผิวหนังอักเสบของคุณไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยาที่ได้จากร้านขายยา
การดูแลตนเอง
คุณสามารถดูแลตัวเองเพื่อควบคุมอาการของผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญได้ดังนี้:
เลี่ยงการใช้สบู่และยาดับกลิ่น: รวมไปถึงสบู่เหลว ฟองอาบน้ำ เจลอาบน้ำ และทิชชู่เปียก แม้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อาจจะไม่ได้ก่อความระคายเคืองกับผิวหนังของคุณอย่างชัดเจน คุณก็ควรเปลี่ยนไปใช้สารแทนสบู่แทน
ป้องกันผิวหนังจากการบาดเจ็บ (ยกตัวอย่างเช่นสวมถุงมือ)
อาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่น: ใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นหลังอาบน้ำสามารถช่วยลดอาการได้ และหลังจากนั้นให้คุณเริ่มการรักษาต่อทันที
ไม่เกาปื้นผิวหนัง: พยายามรักษาความสะอาดของมือและตัดเล็บมือให้สั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายกับผิวหนังหรือการติดเชื้อโดยไม่ตั้งใจ
คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและดำเนินการรักษาที่แพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด
หากคุณคาดว่าผิวหนังของคุณติดเชื้อ อย่างเช่นมีของเสียออกมาหรือมีอาการกดเจ็บที่ปื้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้การติดเชื้อลุกลามมากขึ้น ซึ่งการใช้ครีมทาคอร์ติโคสเตียรอยด์สามารถป้องกันการลุกลามของเชื้อได้บ้าง
สารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
การใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังเป็นวิธีลดการสูญเสียน้ำและคลุมผิวเพื่อปกป้องที่ดี ซึ่งครีมหรือสารที่ใช้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังแห้งหรือแตกจากภาวะผิวหนังอักเสบได้
การเลือกใช้สารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังที่วางขายตามท้องตลาดมีอยู่หลายประเภท คุณสามารถลองใช้ผลิตภัณฑ์หนึ่งและเปลี่ยนไปใช้อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอสินค้าที่ถูกใจ หรือแพทย์อาจแนะนำให้คุณลองผสมสารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังสองอย่างเข้าด้วยกัน เช่น:
- ขี้ผึ้งสำหรับผิวแห้งมาก
- ครีมหรือโลชั่นสำหรับผิวแห้งน้อย
- สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังที่สามารถใช้แทนสบู่ได้
- สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังที่สามารถใส่ลงอ่างน้ำหรือใช้ขณะอาบน้ำได้
- สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังสำหรับผิวหนังหนึ่งตัว และสารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังสำหรับร่างกายอีกหนึ่งตัว
ความแตกต่างระหว่างโลชั่น ครีม และขี้ผึ้งคือปริมาณน้ำมันที่เป็นส่วนประกอบ โดยขี้ผึ้งจะมีน้ำมันมากทำให้ตัวยามีความมันเหนอะ และมีประสิทธิภาพที่สุดในการคงความชุ่มชื้นของผิวหนัง โลชั่นจะมีปริมาณน้ำมันน้อยกว่าและไม่เหนอะหนะมากนัก แต่จะมีประสิทธิภาพน้อย ส่วนครีมมักจะอยู่ระหว่างโลชั่นกับกับขี้ผึ้ง
วิธีใช้สารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
คุณควรใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังตลอดเวลาแม้จะไม่มีอาการ เพื่อป้องกันการเกิดอาการขึ้นมาอีก หลายคนพบว่าการแยกสารเพิ่มความชุ่มชื้นไว้ที่บ้านกับที่ทำงานมีความสะดวกมาก ๆ
วิธีการใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังมีดังนี้:
- ใช้ปริมาณมาก ๆ
- ห้ามขยี้สาร ให้บรรจงทาลงผิวหนังในทิศทางเดียวกับแนวขน
- สำหรับผิวหนังที่แห้งมาก ให้ทาสารเพิ่มความชุ่มชื้นทุก ๆ สองถึงสามชั่วโมง
- หลังอาบน้ำ ให้ค่อย ๆ เบาให้ผิวแห้งและทาสารเพิ่มความชุ่มชื้นในขณะที่ผิวหนังกำลังชื้นอยู่ทันที
หากคุณเกิดอาการระคายเคืองที่ทำงาน พยายามใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นตลอดและหลังการทำงาน
ห้ามใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นร่วมกับผู้อื่น
ผลข้างเคียงของสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
ปกติแล้วสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังบางประเภทสามารถระคายเคืองผิวหนังได้ หากคุณมีภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญอยู่ ผิวหนังของคุณจะมีความอ่อนไหวและสามารถตอบสนองต่อส่วนผสมบางอย่างของสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังจากร้านขายยาได้ หากว่าเป็นเช่นนี้ ให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังนั้น ๆ และไปพบแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำที่ดีกว่าทันที
สารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังขณะอาบน้ำจะทำให้พื้นหรืออ่างอาบน้ำลื่น จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการอาบน้ำ
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่
ในการรักษาปื้นผิวหนังที่เกิดจากภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ แพทย์จะจ่ายยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ให้แก่คุณ (ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่ใช้ทาลงผิวหนังโดยตรง) เพื่อลดอาการอักเสบลง
คุณอาจมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ยาตัวนี้เนื่องจากมีส่วนประกอบของสเตียรอยด์อยู่ แต่ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์นั้นไม่เหมือนกับอนาบอลิกสเตียรอยด์ที่นักเล่นกล้ามหรือนักกีฬาใช้กัน แปลได้ว่ายาคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่แพทย์หรือเภสัชกรจ่ายให้นั้นปลอดภัยและสามารถใช้รักษาภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง ๆ
การเลือกยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ที่ใช้แต่ละชนิดจะมีความแรงแตกต่างกันขึ้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญของคุณ ซึ่งปกติแล้วภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญจะต้องใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่มีความแรงกว่ายาที่ใช้รักษาภาวะผิวหนังอักเสบประเภทอื่น ๆ
คุณอาจได้รับยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่อยู่ในรูปของครีมมาใช้ทาลงบนผิวหนังที่เปิดโล่ง อย่างเช่นใบหน้าหรือมือ และอาจอยู่ในรูปของขี้ผึ้งสำหรับใช้ตอนกลางคืนหรือสำหรับช่วงที่มีอาการกะทันหัน
วิธีใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์สามารถทาลงบนผิวหนังที่มีอาการได้ทันที นอกจากว่าแพทย์จะแนะนำยาที่มีวิธีใช้แตกต่างออกไป ซึ่งคุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำที่ฉลากยาหรือคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
ห้ามทายาคอร์ติโคสเตียรอยด์มากกว่าสองครั้งต่อวัน ผู้ป่วยส่วนมากจะถูกสั่งให้ทาอย่างมากสุดเพียงหนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น
สำหรับการใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่นั้นมีวิธีการต่อไปนี้:
ทาสารเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังก่อน และรอสารซึมประมาณ 30 นาทีก่อนลงยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่
ทายาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ในปริมาณที่พอเหมาะกับบริเวณที่มีอาการ
ต้องใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ไปจนกว่าการอักเสบจะหายดี นอกจากว่าจะถูกกำหนดจากแพทย์นอกเหนือจากนี้
ให้คุณพูดคุยกับผู้ออกยาหากอาการของคุณไม่ดีขึ้นแม้จะใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ที่ได้รับมา
ผลข้างเคียงของยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่จะทำให้เกิดความรู้สึกแสบร้อนหรือเสียวซ่าไม่รุนแรงและเป็นเวลาสั้น ๆ ขณะที่ทาลงบนผิวหนัง และในกรณีหายาก คุณอาจจะประสบกับ:
- ผิวหนังบางลง
- สีผิวเปลี่ยน
- สิวขึ้น
- ขนเยอะขึ้น
ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะดีขึ้นเมื่อคุณยุติการรักษาไป
โดยทั่วไปนั้น การใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ชนิดแรง หรือใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ในปริมาณมากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงข้างต้นขึ้น คุณควรใช้ยาในปริมาณให้น้อยหรืออ่อนที่สุดเท่าที่จะควบคุมอาการของคุณเท่านั้น
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์แบบเม็ด
หากคุณประสบกับอาการของภาวะรุนแรงอย่างกะทันหัน แพทย์จะจ่ายยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดเม็ดมาให้คุณใช้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
หากว่าคุณใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดเม็ดเป็นเวลานานหรือบ่อยครั้งเกินไป ยาจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่างได้ เช่น:
- การเจริญเติบโตของเด็กลดลง
- ความดันโลหิตสูง
- กระดูกพรุน
- เบาหวาน
ด้วยเหตุนี้ แพทย์จึงไม่ทำการจ่ายยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดเม็ดซ้ำ ๆ โดยไม่ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก่อน
ยาปฏิชีวนะ
ถ้าคุณมีอาการของผิวหนังอักเสบเป็นวงกว้าง คุณอาจได้รับยาปฏิชีวนะชนิดที่ต้องรับประทานเข้าปากมา ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นฟลูโคลซาซิลิน ที่ต้องใช้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หากคุณแพ้ยาเพนิซิลิน คุณอาจะได้รับยาอื่นมาแทน เช่นคลาริโทรไมซิน เป็นต้น
ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่
ถ้าคุณมีอาการของผิวหนังอักเสบไม่กว้างมาก คุณจะได้รับมาเพียงยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ อย่างเช่นกรดฟูซิดิก ซึ่งเป็นครีมหรือขี้ผึ้งที่สามารถทาลงผิวหนังที่มีอาการได้โดยตรง
ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่บางชนิดที่เป็นครีมหรือขี้ผึ้งก็มีส่วนประกอบเป็นยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่
คุณควรใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่เป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ตามความจำเป็น
ยาต้านฮิสตามีน
ยาต้านฮิสตามีนเป็นยาที่สามารถยับยั้งสารฮิสตามีนในเลือด ซึ่งผลิตมาเมื่อร่างกายต้องกับสารระคายเคือง ฮีสตามีนจะทำให้เกิดอาการมากมายเช่นจาม น้ำตาไหล และคัน
ยาต้านฮิสตามีนสามารถใช้ระหว่างที่มีอาการของภาวะผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญกะทันหันเพื่อจัดการกับอาการคันได้ โดยเฉพาะอาการคันที่เกิดขึ้นระหว่างนอนหลับ แต่ยาตัวนี้ไม่สามารถรักษาผิวหนังที่ถูกทำลายได้
ยาต้านฮิสตามีนประเภทเก่าหลายตัวจะทำให้คุณง่วงนอน จึงทำให้สามารถใช้ยาตัวนี้ช่วยในเรื่องการนอนของคุณพร้อมกันได้ หากคุณไม่ต้องการผลข้างเคียงเช่นนี้ก็สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้จัดยาสมัยใหม่ที่มีฤทธิ์กล่อมประสาทน้อยกว่าให้แก่คุณ
การรักษาเพิ่มเติม
หากการรักษาที่แพทย์ดำเนินการไม่ประสบผลสำเร็จ พวกเขาอาจส่งตัวคุณไปรับการประเมินและรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแทน
การรักษาที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมีดังนี้:
- การรักษาผิวหนังด้วยแสง: เป็นการรักษาด้วยแสงอัลตราไวโอเล็ต (UV) เพื่อลดอาการอักเสบลง
- การพันผ้า: เป็นการพันผ้าพันแผลกับผิวหนัง
- การบำบัดกดภูมิคุ้มกัน: จะมีการใช้ยาเพื่อกดภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อลดการอักเสบลง
อาการผิวหนังอักเสบ จนเป็นแผล เป็นอาการของโรคไตรึเปล่าครับ?