สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีอยากสอบถามว่า พอดีปกติหนูกินยาคุมแบบรายเดือน พอดีหมดแพงแล้วยุ่ในช่วงยาหลอก พอถึงวันที่เริ่มทานยาคุมแพงใหม่แต่หนูไม่ได้เริ่มทาน ประมาณ7วันหนูได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนหลั่งใน ถ้าหนูจะถานยาคุมฉุกเฉินต้องทานในกี่ชั่งโมงค่ะ แล้วในช่วงนี้ถ้าไม่ทานมีโอกาสตั้งครรภ์กี่เปอร์เซ็นต์ค่ะหมอ

สวัสดีค่ะ

ถ้าไม่ได้ทานยาคุมแบบแผงต่อยาคุมก็จะไม่มีฤทธิ์ในการคุมแล้วค่ะ ถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากถึง 85% กรณีนี้ให้รีบทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้เร็วที่สุด หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% ยิ่งทานเร็วประสิทธิภาพในการคุมก็จะมีมากค่ะ หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 14 วันค่ะ

จากข้อมูลที่ว่า "พอดีหมดแผงแล้วอยู่ในช่วงยาหลอก" และ "พอถึงวันที่เริ่มทานยาคุมแผงใหม่แต่หนูไม่ได้เริ่มทาน" รวมถึง "ประมาณ 7 วันหนูได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนหลั่งใน" ทำให้สับสนว่าสรุปแล้ว ผู้ถามยังอยู่ในช่วงที่รับประทานเม็ดยาหลอกของแผงเดิม หรือเกินกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่มานานแล้ว

ดังนั้น เพื่อความชัดเจนและสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้ ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้นะคะ
1. ใช้ยาคุมรายเดือนยี่ห้ออะไรคะ
2. กำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ในวันที่เท่าไหร่คะ
3. ประจำเดือนรอบล่าสุดมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่คะ
4. ต้องการคุมกำเนิดด้วยยาคุมรายเดือนต่อหรือไม่ อย่างไรคะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากไม่ได้รับประทานยาคุมต่อแผงใหม่ตามกำหนดก็จะมีโอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้สูงครับ

ในกรณีนี้จึงควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดก่อนภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% หรือถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ

ส่วนถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีกหลังจากนี้ก็ควรมีการป้องกันทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ

"ใช้ยาคุมแอนนาค่ะ
กำหนดต่อแผงใหม่ 13 ม.ค. ค่ะ
ประจำเดือนล่าสุด 9 ม.ค. ค่ะ
ต้องการรายเดือนต่อค่ะ"

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

ในตอนนี้ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแอนนาที่ผู้ถามเคยใช้แล้วนะคะ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันใด ๆ เลย

หากต้องการลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลง ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันทีในตอนนี้ หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยสามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว

หากใช้ครบขนาดและทันเวลา อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15 - 25% แทนได้

จากนั้น ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือเปล่า เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว หากไม่มีข้อจำกัดในการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด สามารถเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรก (ครั้งใหม่) ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนได้เลย และถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ

แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ