July 28, 2018 20:43
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อาการของการติดเชื้อHIVในระยะแรกนั้นจะไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจนหรือจำเพาะต่อโรคครับ โดยอาการในระยะแรกมักเกิดขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ และอาการจะหายไปได้เองในไม่กี่วัน ในระยะแรกนั้นอาจมีอาหาร เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่น ไอ เจ็บ ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งอาการเหล่านี้คล้ายอาการของไข้หวัด และการติดเชื้อไวรัสทั่วไปมาก ทำให้ไม่สามารถแยกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
หลังจากผ่านอาการในระยะแรกไปแล้วตัวโรคจะเข้าสู่ระยะสงบ ไม่แสดงอาการออกมา ซึ่งในบางคนระยะนี้อาจกินเวลานานได้ถึง 10 ปี และกว่าตัวโรคจะแสดงอาการออกมาอีกครั้ง ภูมิคุ้มกันในร่างกายก็จะต่ำลงมากแล้ว ทำให้มีการติดเชื้อแทรกซ้อนต่างๆตามมาได้ เช่น ติดเชื้อวัณโรค ติดเชื้อราในปอด ติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง ท้องเสียเรื้อรัง ฯลฯ
การวินิจฉัยโรคHIVจะต้องใช้การตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อเท่านั้นครับ ถ้าหากที่ผ่านมามีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อมาได้ ก็แนะนำให้ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคเอดแสดงอาการตอนไหนอาการเป็นไง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)