July 25, 2018 11:21
ตอบโดย
รุจิเรข นิลศรี (พญ.)
สวัสดีค่ะ การวินิจฉัยโรควัณโรคในปัจจุบันนั้นอาศัยหลักฐานหลายๆอย่างมากประกอบกันค่ะ เช่น ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย การเก็บเสมหะะส่งตรวจ การเอกซเรย์ภาพถ่ายรังสีทั่วไป การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอด เนื่องจากโรควัณโรคเป็นโรคที่สามาถติดต่อได้ง่าย และดื้อยาง่ายมากในปัจจุบัน แจึงแนะนำว่าหากวินิจฉัยแล้ว และได้รับการรักษาาโดยดารทานยาวัณโรคเเล้ว ไม่ควรที่จะหยุดยาเอง หรือเลิกทานยาเด็ดขาดหาไม่มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญระบุ เนื่องจากจะสามารถเป็นอันตรายได้ จากทั้งตัวผู้ป่วยเองและผู้ที่อยู่ใกล้ชิด เนื่องจากอย่างที่กล่าวไปว่าโรคนี้ดื้อยาง่ายค่ะ
ดังนั้น หากมีอาการดังกล่าวข้างต้น หรือไม่ว่าจะเป็นอาการอื่นๆ เช่น กินไม่ได้ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ตาเหลืองตัวเหลือง ปวดท้อง กินไประยะนึงแล้วรู้สึกยังไม่ดีขึ้น หรือแย่ลง แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปรับยาค่ะ เนื่องจากอาจเป็นอาการของผลข้างของยาไ้ค่ะ และในปัจจุบันนี้มียาหลากหลายสูตรที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในผู้ป่วยแต่ละคนเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างดีที่สุดคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปู่ดิฉัน เป็นวัณโรค ซื้งได้ยามากิน จำนวน 10 เม็ด ก่อนนอน แต่ ปู่มีอาการค้างเคียงจากยาเยอะมากเลยค่ะ คัน ชา เวียนหัว อ่อนเพลีย ใจสั่น แบบนี้ควรหยุดยาไหมค่ะ เพราะตัวแกเองก็ ว่าไม่เป็น แต่ไปหาหมอ2 หมอ คนแรก บอกเป็น คนที่ 2 บอกเป็นหลอดลมอักเสบ ทำให้ไม่มั่นใจว่าเป็น บวกกับว่า ยามีผลค้างเคียงเยอะเลยทำให้ไม่ยากกินต่อค่ะ แบบนี้ควรทำไงดีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)