วันนี้ต้องไปฉีดวัคซีนไข้หัดเยอะมันค่ะ แต่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วถุงยางอนามัยรั่ว จึงต้องทานยาคุมฉุกเฉิน อยากทราบว่า ยังสามารถฉีดวัคซีนได้เหมือนเดิมไหมคะ มีผลข้างเคียงอะไรไหม

สวัสดีครับ
การฉีดวัคซีนหัดเยอรมันและยาคุมฉุกเฉินไม่มีปฏิกิริยาต่อกันจึงสามารถใช้ร่วมกันได้ครับ

แต่อาจมีผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม ตกขาวมากขึ้น มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนได้

และอาจมีผลข้างเคียงจากวัคซีน เช่น มีไข้หลังฉีดวัคซีน มีปฏิกิริยาการแพ้วัคซีนได้

แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้เป็นผลมาจากตัวยาคุมหรือวัคซีนเอง ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาครับ

ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมนะคะ

ยาคุมฉุกเฉิน หรือยาคุมกำเนิดอื่น ๆ ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของวัคซีนหัดเยอรมันค่ะ จึงไม่ได้เป็นข้อห้ามในการใช้ร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม โดยปกติเมื่อฉีดวัคซีนหัดเยอรมันไปแล้ว จะต้องคุมกำเนิดต่ออีกอย่างน้อย 28 วันนะคะ ซึ่งในกรณีที่ผู้ถามและแฟนมีปัญหาถุงยางอนามัยรั่วมาแล้ว การใช้ยาคุมฉุกเฉินแม้อาจจะลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้ แต่ก็ถือว่ามีโอกาสคุมกำเนิดผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้มากกว่าวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ

ในกรณีนี้ แนะนำให้ลองโทรศัพท์ไปสอบถามกับแพทย์/สูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลที่มีนัดฉีดวัคซีนอีกทีนะคะ เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าควรจะต้องเลื่อนนัดการฉีดวัคซีนหรือไม่ (โดยปกติจะไม่ต้องเลื่อน ถ้ามีความเสี่ยงน้อยที่จะตั้งครรภ์ค่ะ)

และถ้ามีการฉีดวัคซีนในวันนี้ แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนนะคะ เมื่อประจำเดือนมาแล้ว ให้เริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน (หรือปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ) โดยอาจจะใช้ร่วมกันถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ได้ เนื่องจากการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนหรือห่วงอนามัย มีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้น้อยกว่า จึงเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้น้อยกว่าการใช้ถุงยางอนามัยค่ะ

หรือจะงดมีเพศสัมพันธ์ไปอย่างน้อย 28 วันหลังฉีดวัคซีนก็ได้ค่ะ

โรคหัดนั้นเป็นโรคที่ติดต่อได้ทางทางเดินหายใจซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ครับ ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ ถ้าหากอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เป็นโรคหัดก็มีโอกาสที่จะติดโรคหัดมาได้ครับ

ถ้าหากเคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดมาก่อนโอกาสติดเชื้อก็จะมีน้อยลง เพียงแต่ว่าก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่ติดเชื้อ 100% ในช่วงนี้ถ้าเป็นไปได้หมอก็แนะนำว่าควรแยกบริเวณที่อยู่อาศัยกับคนที่เป็นโรคหัดไปก่อนและถ้าหากจำเป็นต้องใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆก็ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกันทุกครั้งครับ