October 23, 2020 10:48
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นยังบอกได้ยากว่าเลือดที่ออกมาจะเป็นประจำเดือนหรือเป็นผลข้างเคียงจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะครับ และถ้าหลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกโดยไม่ได้ป้องกันไปอีกก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ครับ
ในตอนนี้ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายหมอก็แนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานอีกครั้งก่อนครับ
และถ้าต้องการทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในดารตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ส่วนอาการคลื่นไส้ รับประทานอาหารได้น้อย รู้สึกมึนนั้นเป็นอาการที่ไม่ได้จำเพาะกับสาเหตุใดเป็นพิเศษครับ อาจเกิดได้จากสาเหตุ เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ อาหารเป็นพิษ การติดเชื้อบางอย่าง ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ฯลฯ ในส่วนนี้หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คืนวันที่9มีsexกับแฟนแบบหลั่งนอกค่ะ แล้วเช้าวันที่10อยู่ๆประจำเดือนก็มา ก่อนหน้านี้ทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ เลยไม่ทราบว่าประจำเดือนจะมา เพราะตกขาวแห้งมาก เป็นสีขาวขุ่นค่อนข้างเหนียวและแห้งคล้ายแป้งเปียกค่ะ พอวันที่13ประจำเดือนก็หาย ถ้ามีsexไม่ได้ป้องกันแล้วประจำเดือนมาในวันถัดมาแบบนี้มีโอกาสท้องไหมคะ แล้ววันที่18ก็มีsexอีก ไม่ได้ป้องกันเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ถึง5นาที ไม่มีการหลั่งด้วยค่ะ ตกขาวก็ยังแห้งเหมือนเดิม พอประมาณวันที่20ก็เริ่มมีอาการคลื่นไส้หลังรับประทานอาหารได้20-30นาทีค่ะ บางครั้งก็หลังจากทานอิ่มใหม่ๆได้ไม่ถึง10นาทีค่ะ ทานได้น้อยลง แต่ก็ยังทานได้ทุกอย่าง หันเร็วๆไม่ค่อยได้เหมือนเดิมรู้สึกมึนๆสักพักก็หาย แบบนี้เกี่ยวกับกระเพาะหรือเป็นสาเหตุจากอะไรคะ ช่วงนี้พักผ่อนน้อยทานข้าวไม่เป็นเวลาด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)