สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีมีอาหารปวดจี๊ดบริเวณสีแดง ข้างซ้ายในภาพ มาอาทิตย์นึงค่ะ จะเป็นแค่ตอนจะนั่งและยืน นานทีเป็นเท่านั้น และไม่จี๊ดมาด แต่แค่รู้สึกว่าปวดนิดเดียวแค่ตอนนั้น และหายไปค่ะ แต่เมื่อวานมีการปวดจี๊ดมาก ตลอดเวลาโดยเฉพาะตอนเดิน ทำให้เดินขากระเพลกข้างซ้ายไปทั้งวันดลยค่ะ ทำให้เมื่อคืนมีอาการจี๊ดหนักมากกว่าเดิมจนลามไปยังต้นขาหลัง ทั้ง 2 ข้าง ทำให้เมื่อพยายามเปลี่ยนท่านั่งหรือยืน เกร็งหรือทิ้งน้ำหนักตัวลงขาเพื่อยืน มีอาการจี๊ดจนขาอ่อน เดินไม่ไหว กลับมานั่งเหมือนเดิม กินพาราไป 2 เม็ดก่อนนอนและทายาหม่องไป ตื่นมาลองเดินดูก็มีการปวดตรงบริเวณสีแดงเหมือนเดิมตอนเดิน เลยหยุดเรียนค่ะ เพราะกลัวว่าถ้าฝืนเหมือนเมื่อวาน จะมีอาการปวดร้าวเพิ่มขึ้นอีก ควรทำยังไงดีคะ ถ้าไปพบหมอ มีค่ารักษามากไหมคะ เพราะไม่มีสิทธิรักษาอะไรค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่าา เดินแล้วเจ็บ เหมือนคนขาเป๋เลยค่ะ เป็นโรคอะไรคะ เส้นเอ็นหรือกระดูก😭

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีอาการปวดที่บริเวณก้นในตำแหน่งตามรูปก็มักมีสาเหตุมาจากการอักเสบของกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทที่บริเวณนั้นได้ครับ ซึ่งการรักษาหลักๆนั้นก็มักเป็นการรับประทานยาแก้ปวดตามอาการ ร่วมกับการหลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดอาการเจ็บมากขึ้นไปก่อน

ทั้งนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ศัลกรรมกระดูกเพื่อตรวจร่างกายประเมินอาการเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดครับ

ส่วนค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษาในเบื้องต้นนั้นจะอยู่ในช่วงประมาณ 500-1000 บาทสำหรับโรงพยาบาลรัฐครับ

จากบริเวณนั้น อาจเกิดได้จากการอักเสบของกล้ามเนื้อทั้งจากการทำงาน อุบัติเหตุ การนั่งนานๆ เป็นต้น
หรืออาจเกิดได้จากการอักเสบของเส้นประสาทไซอาติกา Sciatica ซึ่งเป็นเส้นประสาทใหญ่ยริเวณก้นครับ ทำให้มีอาการปวดขาร้าวลงขา ลักษณะปวดจี๊ด แปล๊บๆ ได้ครับ

โดยปกติมักหากไปได้เองภายใน1เดือน และควรงดกิจกรรม ที่ต้องใช้แรงมากๆ เช่น ยกของหนักๆ จะทำให้ปวดมากขึ้นได้ครับ

สาเหตุอื่นๆ เช่น การอักเสบบริเวณผิวหนัง ฝีหนอง เป็นต้นครับ

เบื้อวต้น อาจทานยาแก้ปวดแก้อักเสบ เช่น ibuprofen,celebrex ร่วมกันกับยาคลายกล้ามเนื้อเช่น mydocalm เป็นต้น

หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นๆต่อไป