February 12, 2018 23:30
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
หากเป็นแบบเรื้อรัง ดื้อยา ควรดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8–10 แก้วต่อวัน ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ หากมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที และควรปรับความคิดเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นสุข เช่น จากเดิมคิดแค่อยากเป็นปกติ ซึ่งโอกาสนั้นยากมากมันเป็นไปไม่ได้ เราจะเครียด ลองปรับความคิดใหม่ เช่น เป็นแค่นี้ยังดีกว่าการเป็นโรคร้ายแรง เดินไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ,คนเราทุกคนเกิดมามีโรคทั้งนั้น อาจจะเป็นโรคเล็กน้อยบางคนเป็นโรคร้าย เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีครับคุณหมอ ผมอายุ 17 ปี ผมเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบตั้งแต่ผมอายุ 12 ปี เป็นๆ หายๆ มาตลอดระยะเวลา 5 ปี อาการของผมคือเวลาปวดปัสสาวะ จะกลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ต้องเข้าห้องน้ำทันที บางครั้งเวลาเบ่งปัสสาวะจะค่อนข้างลำบาก ตอนปัสสาวะเสร็จใหม่ๆ จะไม่เป็นอะไร แต่หลังจาก 2-3 นาที จะมีอาการปวดแสบบริเวณฝีเย็บ ปวดท้องน้อย และบางครั้งอาการปวดแสบจะลามไปจนถึงต้นขา เวลาปัสสาวะเป็นสีเหลืองอาการจะหนักกว่าปกติ ผมจะตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืนประมาณ 2-3 ครั้ง บางคืนก็ 4-5 คนครั้ง การปัสสาวะช่วงเช้าหลังตื่นนอนจะปวดแสบกว่าทุกช่วงวัน อาการปวดแสบจะทุเลาเมื่อปวดอุจจาระ เวลาเบ่งปัสสาวะมากๆ จะมีเลือดปนออกมา ตลอดระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ผมนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลมา 4 ครั้ง ผ่านการรักษามาหลายวิธี เช่น การตรวจเลือด (ผลปกติ) ,ตรวจปัสสาวะ (จะพบเชื้อบางครั้งประมาณ 30-40%) ,เพาะเชื้อปัสสาวะทั้งแบบใช้เวลา 7 วัน 14 วัน 30 วัน 50 วัน ,คลำต่อมลูกหมาก (ปกติ) ,อัลตราซาวด์ ,เอ็กซเรย์ดูกระเพาะปัสสาวะ และไต ,ฉีดสีดูการทำงานของไต รวมถึงการส่องกล้อง ในช่วงแรกๆ หมอจะให้ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ และยาแก้ปวดมาทาน ช่วงพักหลังๆ มา หมอให้ยาต่อมลูกหมาก และยาแก้ปวด อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ครั้งล่าสุดที่ไปหาหมอ หมอบอกว่าต้องอยู่กับมันให้ได้ เพราะหมอก็รักษาทุกอย่างแล้ว ผมก็พยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง ผมควรทำอย่างไรต่อไป ผมอยากกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)