ดัชนีมวลกาย: 22.4 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)มีเพศสัมพันธ์แล้วถุงยางรั่ว แตกด้านในเต็มๆมีเพศสัมพันธ์ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน(ใส่ถุงยางทุกครั้ง โดยวันที่ 11 12 และ 13 กันยายน 2561 แต่พอวันที่ 13 ถุงยางนั้นรั่วเข้าทำให้อสุจิเข้าไปในช่องคลอดจึงซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 1 ชั่วโมง(ยี่ห้อเเมรี่ พิงค์) ประจำเดือนล่าสุดมาวันที่ 21 - 24:สิงหาคม 2561 1.อยากทราบว่ามีโอกาสตั้งครรภ์มากแค่ไหน 2.อยากทราบว่ายาคุมฉุกเฉินยี่ห้อนี้ป้องกันได้ดีมากไหม 3.อยู่ในช่วงปลอดภัยไหมคะ

เนื่องจากไม่ทราบรอบประจำเดือน (ซึ่งควรดูย้อนหลัง 3 - 6 เดือนขึ้นไป) จึงบอกแน่ชัดไม่ได้ว่าอยู่ในช่วงปลอดภัยหรือไม่ แต่ถ้าที่ผ่านมา ผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงรอบสม่ำเสมอทุก ๆ 28 วัน ก็เป็นไปได้ที่จะอยู่ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" ค่ะ อย่างไรก็ตาม ต่อให้อยู่ในช่วงปลอดภัย หรือ "หน้า 7 - หลัง 7" ก็ยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 24% นะคะ

การใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการนับวันปลอดภัยค่ะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและถุงยางไม่รั่วซึมก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อย เพียงแค่ 2% เท่านั้น

และเมื่อเกิดปัญหาถุงยางรั่วซึม การรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วเป็นวิธีป้องกันสำรอง ก็เป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมแล้วล่ะค่ะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ ในกรณีที่รับประทานเร็ว ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15%

ยาคุมฉุกเฉินที่มีใช้ในประเทศไทย มีตัวยาเดียวกัน และมีปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากันค่ะ ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อแมรี่ พิงค์ หรือยี่ห้ออื่น ๆ ก็มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่แตกต่างกัน

การถ่ายเหลวหลังรับประทานยา ไม่มีปัญหาค่ะ (จะมีปัญหาถ้าอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยานะคะ)

ผู้ถามมีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอค่ะ รอบประจำเดือนถี่บ้าง ห่างบ้าง นั่นทำให้คาดการณ์ได้ยากว่าไข่จะตกจริง ๆ ในวันใดนะคะ แต่ถ้าดู 2 รอบล่าสุด ซึ่งมีรอบประจำเดือนเป็น 35 วัน ก็มีแนวโน้มว่าวันที่มีเพศสัมพันธ์แล้วถุงยางรั่วซึมในครั้งหลังสุดนี้ น่าจะไม่ได้อยู่ในช่วงวันปลอดภัย หรือ "หน้า 7 - หลัง 7" ค่ะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็ว ก็อาจลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ลงมาเป็น 15% ดังที่กล่าวไปแล้วนะคะ จึงแนะนำให้รอดูไปก่อนว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ (ถ้ามาทุก 35 วัน อย่าง 2 รอบล่าสุด ประจำเดือนเดือนนี้ก็น่าจะมาประมาณวันที่ 25 กันยายนค่ะ)

ถ้ารอนานแล้วประจำเดือนยังไม่มา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์นะคะ หรือตรวจทางปัสสาวะในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
..
..
..
ไม่แน่ใจว่าที่ผู้ถามมีการใช้ยาคุมฉุกเฉินค่อนข้างบ่อย เกิดจากถุงยางรั่วซึมทุกครั้งหรือเปล่า ถ้าใช่... แนะนำให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นแทน เช่น ฝังยาคุมกำเนิด เพราะจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่ามาก และไม่พบความผิดพลาดจากการใช้ (ต่างจากถุงยางที่อาจใช้ผิดวิธี หรือมีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาดได้) ผู้ที่ฝังยาคุมกำเนิด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.05% ค่ะ เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน

หรืออาจใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมกันกับถุงยางนะคะ เช่น รับประทานยาคุมรายเดือนร่วมกับใช้ถุงยางอนามัย เพราะถ้ามีทางใดทางหนึ่งผิดพลาด เช่น ลืมรับประทานยาคุม หรือถุงยางรั่วซึม ก็ยังมีอีกทางช่วยป้องกันไว้ ซึ่งประสิทธิภาพจะสูงกว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินหลายเท่าค่ะ (ถ้าใช้ยาคุมรายเดือนถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3%)

สามารถพบอาการดังกล่าวในช่วงหลังไข่ตก ไปจนถึงช่วงที่จะมีประจำเดือนได้ค่ะ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าไข่ที่ตกนั้นจะผสมกับอสุจิหรือไม่ หรือหากอาการเจ็บคัดตึงเต้านมนั้นเกิดขึ้นตามหลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ก็อาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่า การที่มีหรือไม่มีอาการดังกล่าว ไม่ได้บ่งบอกว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์นะคะ ดังนั้น แนะนำให้รอดูประจำเดือน หรือรอตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสม เพราะจะชัดเจนและแม่นยำกว่าค่ะ